‘อัครเดช’ จี้รบ.เร่งฉีดวัคซีน ตามคิวหมอพร้อม ชี้คนรอแล้วรออีก วอนแก้ปัญหารพ.ไม่รับตรวจ
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในญัตติด่วนเพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด19 ระลอกที่ 3 เพื่อมีมติให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ ตอนหนึ่งว่า มี 4 ประเด็นปัญหาสะท้อนถึงรัฐบาล ในเรื่องผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องสุขภาพอนามัย ความปลอดภัยในชีวิต เศรษฐกิจปากท้อง ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงอายุเนื่องจากการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างเพียงพอ และไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายไว้ ทั้งนี้ จากการที่รัฐบาลได้ประกาศให้พี่น้องประชาชน ลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านแอพพ์ “หมอพร้อม” ทำให้มีพี่น้องประชาชนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยง 7 โรคลงทะเบียนรับวัคซีน และหากจำได้ในเวลานั้นพี่น้องประชาชนขาดความมั่นใจในเรื่องวัคซีน จนพวกเราในฐานะที่เป็นนักการเมืองต้องไปรณรงค์ร่วมกับผู้นำท้องถิ่นเพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนมาลงทะเบียน แต่หลังจากนั้น ในเดือนมิถุนายนสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ที่ลงทะเบียนกลับไม่ได้รับวัคซีนตามที่กำหนดทั้งๆที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอง เพราะรัฐบาลได้นำวัคซีนเหล่านั้นไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง
“แม้ว่าส่วนตัวจะเห็นด้วย เพื่อให้รัฐบาลสามารถควบคุมระงับยับยั้งการแพร่ระบาดได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลไม่สามารถกำหนดว่าผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมนั้น จะได้รับวัคซีนที่แน่นอนวันไหน จึงทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ประชาชนที่ลงทะเบียนไม่ได้รับวัคซีน จึงทำให้เกิดการวิ่งหาเส้นสาย โทรหาผู้แทนบ้าง ซึ่งเราก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า รัฐบาลจัดสรรวัคซีนอย่างไร ตอบไม่ได้ว่ารัฐบาลจะจัดวัคซีนฉีดวัคซีนให้ได้เมื่อไหร่ จนเรื่องนี้เป็นผลให้ปัญหากระทบความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในเวลาต่อมา เพราะการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไม่เคารพในกฎเกณฑ์ที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดที่มา จึงขอให้รัฐบาลเคารพแอพพ์หมอพร้อมที่ตั้งขึ้นมา ด้วยการกำหนดการเข้ารับการฉีดวัคซีนให้พี่น้องประชาชนที่ลงทะเบียนเอาไว้อย่างเร่งด่วนไม่ใช่ปล่อยให้พี่น้องประชาชนรอโดยไร้คำตอบ ไร้ระยะเวลา และไม่สามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้แบบนี้ โดยในพื้นที่จังหวัดราชบุรี อำเภอบ้านโป่งมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง มีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นในตลาดสดเอกชน เพียงวันเดียวมีผู้ติดเชื้อถึง 59 คน คนอยู่ในภาวะอกสั่นขวัญหาย พร้อมกับให้ตนมาบอกรัฐบาล เรื่องแรกคือ ควรเร่งฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วน”
นายอัครเดช กล่าวว่า เรื่องที่ 2 ปัญหาการกักตัว วันนี้รัฐบาลไม่มีงบประมาณในการลงไปดูแลพี่น้องประชาชนที่ต้องกักตัวตามมาตรการของทางราชการ ขณะที่พี่น้องประชาชนมีรายได้น้อยจะใช้ชีวิตอย่างไร ในเมื่อตัวเองนั้นยังต้องหาเช้ากินค่ำ ดังนั้นตนรวมถึงผู้นำท้องถิ่น จึงร่วมกันลงไปดูแลพี่น้องประชาชนกลุ่มเหล่านั้นทุกวัน เพราะพี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก จึงขอฝากไปถึงรัฐบาลว่า ให้รัฐบาลได้ปรับกลไกการบริหารงานในการดูแลพี่น้องประชาชนที่ต้องกักตัวเพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส covid-19 อย่างมีประสิทธิภาพ
เรื่องที่ 3 การเตรียมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่เสี่ยง ขอให้รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณเพื่อจัดซื้อเครื่องไม้เครื่องมือ เช่นเครื่องช่วยหายใจให้เพียงพอกับผู้ป่วย เพราะจากการที่ตนเป็นกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณ covid-19 การบริหารงบประมาณ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดซื้อจัดหาเครื่องมือแพทย์เห็นว่ายังเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง และไม่มีประสิทธิภาพ จึงขอให้รัฐบาลบริหารจัดการงบประมาณที่จะซื้อเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องใช้ชีวิตเครื่องช่วยหายใจให้กับพี่น้องประชาชนที่ยังมีการติดโควิดเพิ่มมากขึ้นทุกวันนี้ให้เพียงพอต่อการดูแลพี่น้องประชาชนของเรา
เรื่องที่ 4 การตรวจหาเชื้อ ในวันนี้เมื่อสถานพยาบาลตรวจหาเชื้อแล้วพบเชื้อ สถานพยาบาลต้องรับเป็นผู้ป่วย เนื่องจากมีกฎหมายกำหนดไว้ หากสถานพยาบาลไม่รับก็จะมีความผิดทางกฎหมาย ด้วยเหตุนี้ทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ จึงไม่รับการตรวจเชื้อ covid19 ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สามารถไปตรวจหาเชื้อได้ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหานี้ด่วน
