เพื่อไทย จ่อประชุมพรรค 13 ก.ค. ขอมติยื่นซักฟอก อัด ประยุทธ์ ยิ่งอยู่ ปท.ยิ่งเสียหาย

เพื่อไทย เดินหน้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ “บิ๊กตู่” ชี้ไม่สมควรบริหารประเทศอีกต่อไป ทำชีวิต ปชช.เสียหาย เตรียมประชุม ส.ส.พรรค 13 ก.ค.-หารือพรรคร่วมฝ่ายค้านขอมติอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรค พท. และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาลโดยตรงทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาความพร้อมที่รัฐมีอยู่ไม่เคยมีความพร้อมเลย สิ่งต่างๆ จึงเกิดขึ้นและเป็นรื่องที่น่าอับอายที่สุด พรรคเพื่อไทยจึงไม่สามารถที่จะรับการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ได้ ดังนั้นคณะผู้บริหารของพรรคได้ปรึกษาหารือและมีมติเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า จะดำเนินการเปิดอภิปราย ไม่ไว้วางใจโดยใช้มาตรา 151 เพื่อให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวของกับความเสียหายของบ้านเมือง โดยการอภิปรายมีหลักสำคัญคือ สิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาเป็นการละเลยต่อชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชน

“วันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด 9,326 คน เสียชีวิต 91 คน สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอีก ผมมองว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไม่สามารถที่จะไว้ใจได้ การที่เราจะยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 เพราะเราจะเปิดโปงความเสียหาย ความผิดพลาดของรัฐบาล ที่ได้กระทำมาตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่สำคัญเราจะเน้นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตที่เอื้อประโยชน์ทำให้ประชาชนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในวันอังคารที่ 13 ก.ค.จะประชุมพรรคและหารือกับ ส.ส.พรรคเพื่อขอมติ ขณะเดียวกัน จะปรึกษาหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในเร็วๆ นี้ ซึ่งกำลังพิจารณาว่าการประชุมกันจะทำได้หรือไม่ได้” นายสมพงษ์กล่าว

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า การล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาล แม้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างส่วนสาหัสอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

Advertisement

โดยรัฐบาลยังมีวงเงินที่เหลืออยู่จากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรื่องนี้อยากจะบอกรัฐบาลว่า การล็อกดาวน์เข้มข้นในลักษณะนี้มีต้นทุนที่สูงมากในระบบเศรษฐกิจอย่างยิ่ง ความเสียหายที่มีการประมาณการเบื้องต้น คาดว่าจะมีความเสียหายในระบบเศรษฐกิจประมาณ 260,000 ล้านบาทต่อเดือน หากคิดเป็นต่อวันประมาณ 9 พันล้านบาท ถือว่าเป็นค่าความเสียหายที่มีมูลค่าสูงอย่างยิ่ง ฉะนั้นทุกวินาทีคือความทุกข์ของพี่น้องประชาชน ขอให้รัฐบาลตระหนักในเรื่องนี้ด้วย

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรค พท.กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่วางใจที่จะให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศชาติ ต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียว เพื่อป้องกันความเสียหายด้านเศรษฐกิจและการเจ็บ ป่วย ล้มตายของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้ ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยมีมติว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 เพื่อเปิดเผยความล้มเหลว ความผิดพลาด การทุจริต เอื้อประโยชน์ ให้พวกพ้อง มีการหากินบนความตายของพี่น้องประชาชน

Advertisement

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในประเทศไทย ในสถานการณ์ที่เรามีผู้นำไร้ความสามารถ สร้างปัญหาและไม่สามารถแก้ไขปัญหา ทำให้ประชาชนต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆ มากมาย เห็นประชาชนล้มตายต้องมานั่งตากแดดตากฝนอยู่ริมถนนตามจุดตรวจต่างๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความไร้ศักยภาพขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านเราพยายามเสนอแนะวิธีแก้ปัญหาต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดการระบาด แต่ยังไม่เคยได้รับการตอบสนองอย่างทันการณ์

“เราสรุปได้แล้วว่าการระบาดของโควิดที่เกิดขึ้น เกิดจากความบกพร่องของฝ่ายผู้นำทั้งสิ้น พวกเขาไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ เพราะไร้ความสามารถยิ่งอยู่นานไปก็ยิ่งทำชีวิตประชาชนเสียหาย เศรษฐกิจประเทศเสียหายไปเรื่อยๆ ฉะนั้นสิ่งที่เราอยากเสนอคือจากนี้เป็นต้นไป เราจะใช้มาตการทั้งหมดที่มีอยู่ในสภาฯเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะไม่ยอมรับให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศได้อีกต่อไป ในต้นสัปดาห์หน้าจะมีกาประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อขอมติและจะเดินหน้าหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการยื่นให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่านอกเหนือจากการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตรวจสอบรัฐบาลแล้วระบบอื่น เช่น การล่ารายชื่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานไทยสร้างไทย พรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายสมพงษ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคงจะเน้นหนักในเรื่องทางรัฐสภา ส่วนกรณีอื่นนั้นคงจะต้องพิจารณาดูอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราไม่ร่วมกับทางพรรคไทยสร้างไทยในส่วนของการเซ็นชื่อ

ภูมิธรรม

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้จัดเสวนาเรื่องวิกฤตโควิดทางตันและทางออกของประเทศ ซึ่งในวงเสวนาตนได้เสนอว่าให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะทางอาญาหรือทางแพ่ง โดยเฉพาะฟ้องละเมิดทางแพ่ง ฉะนั้นเรายินดีที่จะเข้าไปร่วมผลักดันในส่วนนี้ แต่กรณีคดีอาญาหรือคดีจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถดำเนินการได้ แต่สิ่งที่เราหนักใจที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ทำงานโดยได้รับข้อยกเว้นจากกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งพวกเขาได้รับความคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางแพ่งและอาญารวมถึงเรื่องวินัย หรือแม้แต่คดีเกี่ยวกับการปกครองว่าจะฟ้องพวกเขาไม่ได้ หากพวกเขาปฏิบัติตามกฎหมายนั้นโดยชอบ หรือสุจริต ซึ่งเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เราก็มองอยู่ ฉะนั้นเราจึงสนับสนุนให้ประชาชนฟ้องละเมิดทางแพ่ง เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่คุ้มครองเรื่องละเมิดทางแพ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image