‘พิจารณ์’ ย้ำ ไม่มีเหตุจำเป็นซื้อ ‘เรือดำน้ำ’ แนะ ‘เหล่าทัพ’ แจง กมธ.งบ 65 เอง กันปัญหาเอกสารราชการลับ อย่าอ้างขอออนไลน์ เพราะกลัวโควิด
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที ใน กมธ.พิจารณางบประมาณ 2565 ให้สัมภาษณ์กรณีที่กองทัพเรือเสนอขอซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 โดยให้เหตุผลว่า เป็นการเสนอตามหน้าที่ ว่า ตนไม่เห็นด้วยถึงความจำเป็นที่ประเทศไทย หรือกองทัพเรือจะต้องมีเรือดำน้ำ เพราะการรักษาผลประโยชน์ทางทะเลสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ยุทโธปกรณ์บนผิวน้ำ หรือการเจรจาทางการทูต ด้วยความที่เราได้จัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกไปแล้วก่อนที่จะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งมอบให้ในปี 2566 ส่วนสิ่งที่จะตามมาเพิ่มเติมคือ สิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ เช่น ท่าจอดเรือดำน้ำ โรงซ่อมเรือดำน้ำ คลังเก็บขีปนาวุธเรือดำน้ำ และการซื้อเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ ใช้งบประมาณเกือบ 1 หมื่นล้านบาท หลายโครงการอนุมัติเป็นกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเกิดกรณีไม่ให้ซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ทางกองทัพเรือก็จะอ้างว่า มีความจำเป็นต้องซื้อเรือดำน้ำเพิ่ม เพื่อดำเนินการให้ครบ และเกิดความคุ้มค่า
นายพิจารณ์กล่าวต่อว่า หากพูดในมุมของคนที่อยากได้เรือดำน้ำ ชุดความคิดที่จะซื้อต่อก็จะโต้เถียงยาก แต่เรายืนยันว่า สามารถชะลอการซื้อลำที่ 2-3 ออกไปได้แน่นอน เพราะความเสี่ยงภัย และภัยคุกคามของประเทศขณะนี้ ไม่มีความเร่งด่วนที่ต้องมีเรือดำน้ำ ความเสี่ยงภัยขณะนี้ คือ ด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชนมากกว่า ฉะนั้นงบประมาณที่จะผูกพันไปอีก 6-7 ปีข้างหน้า จากการซื้อเรือดำน้ำนั้นคือ 2.2 หมื่นล้านบาท ที่ต้องทยอยจ่าย จึงยังไม่ควรต้องเริ่มการผูกมัดในปีงบประมาณนี้
นายพิจารณ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ กมธ.งบ 2565 ชุดใหญ่ นำประเด็นการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 มาใช้เป็นข้ออ้าง ให้หน่วยงานของกองทัพสามารถชี้แจงผ่านระบบการประชุมออนไลน์ ซึ่งตามข้อบังคับสามารถทำได้ แต่ตนคิดว่า ในทางปฏิบัติการเข้าชี้แจง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ที่เป็นหน่วยงานรับงบประมาณที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก ประธาน กมธ.ควรจะสั่งให้หน่วยงานเข้ามาชี้แจงที่สภา เพื่อให้เกิดความสง่างาม และได้ตรวจสอบกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งมอบเอกสารเพิ่มเติม เมื่อปีก่อนๆ มีเอกสารชี้แจงที่ระบุว่าเป็น ความลับทางราชการไม่สามารถเปิดเผยได้ เมื่อชี้แจงที่ประชุมเสร็จแล้วก็จะมาเก็บเอกสารกลับไปทันที ดังนั้น ยืนยันว่า สำหรับกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการแต่ละเหล่าทัพ จำเป็นต้องเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเองที่สภา เพราะสังคมจดจ้อง และสนใจ ส่วนหน่วยงานอื่นที่อยู่ต่างจังหวัด หรือเดินทางลำบาก เราก็รับฟังได้