‘ยุทธพงศ์’ งัดหนังสือลงนามโดย ‘พล.ร.อ.ลือชัย’ ถึงบริษัทขายเรือดำน้ำ ชี้พบพิรุธเร่งจัดซื้อ

‘ยุทธพงศ์’ งัดหนังสือลงนามโดย ‘พล.ร.อ.ลือชัย’ ถึงบริษัทขายเรือดำน้ำเป็นหลักฐาน หลังพบพิรุธเร่งจัดซื้อโดยไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพ เผย กมธ.ฟากฝ่ายค้านเตรียมเสนอ กมธ.ชุดใหญ่ตัดทิ้งเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำไปเลย ถ้าไม่ยอมก็ให้ยกมือโหวตดูหน้าคนยกมือให้เรือดำน้ำผ่าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรค พท. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีกองทัพเดินหน้าซื้อเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ ในปีงบประมาณ 65

โดยนายยุทธพงศ์กล่าวว่า ตนมีหนังสือจาก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ไปถึงนายสู จ้าน ปิน รองประธานองค์กรบริหารงานของรัฐด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในหนังสือมีพิรุธคือ หนังสืออกจากกองทัพเรือวันที่ 24 กันยายน 2563 เร่งรัดให้มีการลงนามในสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ให้ทันในปีงบประมาณ 63 หรือภายในเดือนกันยายนปี 63 โดยระบุอีกว่า หากดำเนินการไม่ทันสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยอาจจะทำให้ต้องเริ่มต้นจัดหากันใหม่ นอกจากนี้ ในหนังสือยังระบุอีกว่า หากประเทศจีนไม่สามารถส่งผู้แทนมาลงนามในสัญญาได้ก็ขอให้ผู้แทนจากสถานเอกอัคราชทูตจีนในประเทศไทยมาลงนามในข้อตกลงดังกล่าวแทน นี่คือข้อพิรุธว่า การซื้อขายเที่ยวนี้ ถ้าบอกว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจีจริง พล.ร.อ.ลือชัยออกหนังสือไปวันที่ 24 กันยายน 63 จะให้ทางจีนมาเซ็นก่อนวันที่ 30 กันยายน 63 หรือก่อนที่ พล.ร.อ.ลือชัยจะเกษียณ ด้วยสถานการณ์โควิด จะเดินทางเข้าประเทศได้ต้องมีการกักตัวจึงบอกว่า ถ้าทางจีนมาไม่ได้ก็ขอให้เอาคนจากสถานทูตจีนในประเทศไทยก็ได้ นี่คือข้อพิรุธ

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในหนังสือยังอ้างถึงเรืออีก 1 ลำ คือเรือ LPD สนับสนุนเรือดำน้ำที่กองทัพเรือของไทยซื้อมาจากประเทศจีนเช่นกัน โดยเรือลำนี้มูลค่า 6,200 ล้านบาท แต่ไม่มีระบบอำนวยการรบ และระบบใดๆ ทั้งที่ต้องมีด้วย แต่ได้เรือมาเปล่าๆ พล.ร.อ.ลือชัยจึงเขียนหนังสือไปขออาวุธปืนเขา ซึ่งเรือลำนี้ในงบปี 65 ที่พรุ่งนี้ (19 กรกฎาคม) จะมีการพิจารณานั้นมีการของบเข้ามา 1,800 ล้านบาท สรุป การไปขอร้องบริษัทจีนดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า ตนเองเร่งรัดเซ็นสัญญาซื้อเรือ LPD มูลค่า 6,200 ล้านบาท และเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ในช่วงที่ตนเองเป็น ผบ.ทร.เท่านั้น โดยอ้างว่ามีงบประมาณจำกัด เอาตัวเรือมาก่อน โดยไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพของเรือแม้แต่น้อย และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทร.ไปต่อเรือลำนี้มาโดยไม่มีความพร้อมในด้านการรบเลยแม้แต่น้อย เป็นการซื้อที่ขาดแผนงาน และคำนึงถึงแต่ประโยชน์ที่ไปซื้อเรือเท่านั้น และที่เสียหายมากที่สุดคือการไปร้องขอให้เขาติดตั้งระบบอำนวยการรบ ระบบอาวุธต่างๆ ให้ เป็นการเสียชื่อเสียงของประเทศไทยมาก

Advertisement

“สัญาญาระหว่างกองทัพเรือไทย และประเทศจีนผ่านบริษัท china shipbuilding & offshore international co.ltd (CSOC) ในการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก และลำที่ 2 และ 3 ที่มีลักษณะเดียวกันนั้น ระบุรัฐบาลจีนมอบอำนาจให้บริษัทนี้เป็นตัวแทนฝ่ายจีนต่อเรือดำน้ำระหว่างรัฐบาลไทยที่มี พล.ร.อ.ลือชัยลงนาม กับรัฐบาลจีนที่มีนายสู จีคี ประธานบริษัท CSOC เป็นตัวแทน ซึ่งสัญญาเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี แต่เหตุใดตอนจ่ายเงิน รัฐบาลไทยจึงจ่ายเข้าบัญชีของบริษัท CSOC ที่ปักกิ่ง ทำไมไม่จ่ายเงินไปที่กระทรวงกลาโหมของจีน หรือรัฐบาลจีน” นายยุทธพงศ์กล่าว

นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีคนติดเชื้อโควิดวันละหมื่นกว่าคน ระบบสาธารณสุขเราสู้ไม่ได้ คนป่วยล้น คนรอเข้าการรักษาอยู่จำนวนมาก ขณะเดียวกันประชาชนจำนวนมากอดอยากหิวโหยแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ กลับจะไปซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน แล้ว พล.อ.ประยุทธ์อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้นะ เพราะท่านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ต้องเป็นผู้ลงนามในสัญญา และในฐานะนายกฯ ที่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของ ครม. ท่านไม่สงสารประชาชนเลยหรือ แล้วท่านไม่สงสัยในประสิทธิภาพของเรือดำน้ำหรือ เหตุใดท่านไม่เอาลำแรกมาลองใช้ก่อน ทำไมจึงต้องเร่งซื้อทีเดียวถึง 2 ลำ พรุ่งนี้ (19 กรกฎาคม) จะมีการประชุมของ กมธ.งบฯ 65 ซึ่งเป็นการประชุมออนไลน์ โดย กมธ.ซีกรัฐบาลไม่ยอมให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 4 ท่าน มาชี้แจง อ้างว่ากลัวโควิด ฝ่ายค้านพยายามต่อสู้ให้ ผบ.เหล่าทัพมาชี้แจงแต่ กมธ.ซีกรัฐบาลก็ไม่ยอม เรื่องนี้ต้องถามนายวิรัช รัตนเศรษฐ และนายวิเชียร ชวลิต กมธ.ฟากรัฐบาล ว่าทำไมถึงไม่ให้มา ทั้งนี้ กมธ.ซีกฝ่ายค้านเราได้หารือร่วมกัน และมีมติแล้วว่าจะขอให้ กมธ.ชุดใหญ่ตัดทิ้งเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำไปเลย โดยไม่ต้องส่งไปที่ห้องอนุฯ ถ้า กมธ.ซีกรัฐบาลไม่ยอมเราจะขอเสนอให้โหวตเลย แพ้เป็นแพ้ แต่จะได้รู้ว่าใครที่ยกมือโหวตผ่านให้ซื้อเรือดำน้ำ นอกจากนี้ พรุ่งนี้ตนมีหลักฐานใหม่ที่จะเปิดในห้องประชุม กมธ.อีก

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image