ตร.ใช้ไม้แข็งสลายการชุมนุม ม็อบฮือไล่ ‘ประยุทธ์’ – ทวงวัคซีน
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แนวร่วมราษฎรกว่า 15 กลุ่ม นำโดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บรรยากาศการรวมตัวเพื่อจัดขบวนประชาชน ก่อนเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล มีกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยเดินทางมารอร่วมขบวน อาทิ
กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ขบวนการริมสระ, คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มทะลุฟ้า, เฟมินิสต์ปลดแอก, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, เยาวชนปลดแอก, ราษฎรมูเตลู, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, สหภาพคนทำงาน, สหภาพไรเดอร์, SUPPORTER THAILAND, We Volunteer หรือวีโว่ และราษฎรออฟโรด โดยแต่ละกลุ่มแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อาทิ ปูผ้าหลากสี วางหุ่นศพ รถขนหุ่นจำลอง พล.อ.ประยุทธ์ รถจำลองศพแรงงาน ของกลุ่มสหภาพคนทำงาน โดยมีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ประชาชนส่งต่อหุ่นจำลองจำนวนกว่า 2,000 หุ่น เพื่อส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลว่ามีประชาชนตายจำนวนมากจากการบริหารงานด้านโควิด และวัคซีนล้มเหลว พร้อมยืนยัน 3 เรียกร้อง ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปรับลดงบสถาบัน-กองทัพ สู้โควิด 3.เปลี่ยนวัคซีนหลักเป็นชนิด mRNA
จากนั้นการ์ดวีโว่ตั้งหัวขบวนบริเวณก่อนถึงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ 1 แนว และบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อีก 1 แนว โดยมีรถปราศรัย 2 คัน ต่อหลังแนว ตามด้วยรถประชาชน และรถจักรยานยนต์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังรอบบริเวณ
ขณะที่ พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ อ่านประกาศแจ้งเตือนผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ห้ามชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมขอย้ำเตือนผู้ชุมนุมว่าเป็นการกระทำความผิดจึงขอให้ยุติการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตร.ได้จัดกำลังทั้งหมด 18 กองร้อย แบ่งเป็นกำลังจาก บช.น. 14 กองร้อย ตชด. 4 กองร้อย ในการรับมือมวลชนจากหลากหลายกลุ่มที่นัดรวมตัวกัน โดยมีการวางแนวรั้วลวดหนามเส้นทางถนนราชดำเนินนอกเพื่อปิดเส้นทางการเคลื่อนของขบวนผู้ชุมนุมเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล
จนกระทั่งเวลา 15.34 น. ขบวนยังคงติดอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีการตั้งแนวตำรวจ คฝ. 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้ไปทางถนนราชดำเนินนอก การ์ดวีโว่ถือโล่กำบัง พยายามฝ่าแนวกั้นเครื่องกีดขวาง และตัดรั้วลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวางไว้ ตำรวจพร้อมรถน้ำจีโน่ ได้ฉีดน้ำใส่กลุ่มเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมนั้นถอยร่น และประกาศเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว เตือนผู้ชุมนุมว่าเป็นการกระทำความผิด ขอให้ยุติการชุมนุม อย่าฝ่าแนวกั้นเครื่องกีดขวาง อาจจะฉีดน้ำผสมสี และตามด้วยแก๊สน้ำตา
นายธัชพงศ์ แกดํา หรือบอย หนึ่งในแกนนำประกาศว่า มีการยิงกระสุนยาง จากนั้นเปลี่ยนเส้นทาง มุ่งหน้าถนนนครสวรรค์ เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปบนถนนราชดำเนินในได้ พบว่ามีสื่อมวลชนโดนกระสุนยางบาดเจ็บที่สะโพก และประชาชนถูกกระสุนยางบริเวณดวงตา
ขณะเดียวกัน กลุ่มขบวนรถจักรยานยนต์ประมาณ 40 คัน ได้เดินทางมายังแยกนางเลิ้ง โดยได้ยกแผงเหล็กออก และฝ่าเข้ามาถึงรั้วลวดหนาม โดยนำคีมตัดรั้วออกเพื่อมุ่งหน้ายังทำเนียบรัฐบาล เมื่อมาถึงพาณิชยการพระนคร มีเเนวขบวนเจ้าหน้าที่ คฝ. มีเเนวรั้วลวดหนามรถตู้ รถคุมผู้ต้องหา รถฉีดน้ำความดันสูง กั้นขบวนอยู่ โดยมีรถจักรยานยนต์ตามมาสมทบขึ้นเรื่อยๆ พร้อมบีบแตรดังสนั่น มีการจุดพลุควันสี ทำให้ คฝ.ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา ทำให้มวลชนถอยร่นมาที่หน้าโรงเรียนราชวินิตฯ ต่อมามวลชนได้ทยอยเข้าพื้นที่สมทบ
ด้านเจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ฉีดน้ำอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับมีเสียงคล้ายปืนกระสุนยาง 2-3 นัด และเพิ่มระยะแรงดันน้ำให้ไกลขึ้น เป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตา ทำให้ผู้ชุมนุมตั้งแต่แนวการ์ดด้านหน้าต้องถอยร่นขบวนวิ่งหนีถอยหลังลงไปไกลถึงบริเวณแยกนางเลิ้ง ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งมีอาการแสบตา ไอสำลัก แสบผิวหนัง ต้องใช้น้ำ หรือน้ำเกลือในการล้างหน้าล้างคอและล้างตัว เเละถอยร่นมาอยู่ตรงเเยกนางเลิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีรพงษ์ พงษ์นาค ช่างภาพประจำมติชนทีวี ได้รับบาดเจ็บโดนกระสุนยาง ที่เจ้าหน้าที่ยิงสกัดม็อบบริเวณแขนด้านซ้าย ขณะขบวนผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงบริเวณสะพานผ่านฟ้า และพยายามจะใช้เส้นถนนราชดำเนิน แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ โดยช่างภาพระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำและประกาศว่าจะยกระดับมาตรการ แต่ไม่ได้ยินเจ้าหน้าที่ประกาศว่าจะใช้กระสุนยาง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้ชุมนุมได้เผาหุ่นจำลองนายกฯ บริเวณแยกนางเลิ้ง เวลา 18.00 น.แนวร่วมราษฎรทั้งหมด ที่นำโดยเยาวชนปลดแอกได้ประกาศยุติการชุมนุมให้ประชาชนแยกย้ายกลับและให้รอการนัดชุมนุมอีกครั้ง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวตำรวจ พยายามตัดแนวลวดหนาม ฝ่าแนวเหล็กแผงกั้น เมื่อไม่เชื่อฟัง เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำ
