‘ไมค์’ กระตุกต่อมใต้สำนึกรัฐ ‘แก้วใส’ ลั่นอยากให้ จนท.เห็นค่า ปชช. ‘ไผ่’ นัดต่อหล่อเทียนห้าแยกลาดพร้าวพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่สวนลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่ม “ทะลุฟ้า” นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จัดกิจกรรม “หล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร ออกไปไอ้สั*” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเริ่มวันที่ 19 กรกฎาคม บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตามด้วยลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้
อ่านข่าว : ‘ทะลุฟ้า’ เยือนสวนลุมพินี ต่างชาติแจม ถ่ายภาพต้นเทียนพรรษา-รับสติ๊กเกอร์ ‘ต้านระบอบประยุทธ์’
โดยเวลา 18.00 น. ที่บริเวณทางออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสีลม นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเล็งเห็นปัญหาในประเทศชัดมาก ถ้าเป็นประชาชนคงมีการตั้งคำถามถึงสวัสดิการที่ไม่เคยรองรับ ที่เราดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่ได้ด้วยการร้องขอให้รัฐบาลมาช่วย แต่เราอยู่ได้เพราะว่าช่วยเหลือตัวเอง พึ่งพาตัวเอง ไม่เคยมีมาตรการของรัฐที่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ล็อกดาวน์ ไม่ประกาศเยียวยาอย่างสมเหตุสมผล ทั้งที่ทุกคนเสียภาษีเหมือนกัน
“เราต้องการกระตุกต่อมใต้สำนึกของรัฐบาลว่านี่คือหน้าที่ คนที่ไม่รู้จักหน้าที่คือคนที่ไม่มีประโยชน์ คือพวกทรราชของแผ่นดิน เมื่ออาสาเข้ามาต้องนึกถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่มีใครอยากดูถูกตัวเองว่าออกมาเพราะต้องการเงิน แต่นี่คือเกมของรัฐบาล ที่กดให้เราอ่อนแอที่สุด เพื่อที่จะปกครองเราให้ง่ายที่สุด คือเหตุผลที่ปรีดี พนมยงค์ สร้าง ม.ธรรมศาสตร์ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ แต่รัฐบาลประยุทธ์ ทุกอย่างถูกวางเกมไว้หมดแล้ว
ถามว่าทำไมเราต้องด่า คนดีๆ ใครจะด่า เพราะประยุทธ์เป็นแบบนี้ถึงต้องด่า ความดีที่สุดท้ายที่ประยุทธ์จะทำได้คือลาออก และทำบุญประเทศด้วยการลากองคาพยพและ ส.ว. 250 ออกไป ประชาชนไม่ได้อยากมาร้องขอ ผมเคยลงพื้นที่ถามคนไร้บ้าน เขาไม่ได้ต้องการการเยียวยา เขาต้องการงานที่มั่นคง เขาต้องการเลี้ยงดูตัวเอง รัฐบาลนี้กำลังดูถูกพวกเราอยู่” นายภาณุพงศ์กล่าว
นายภาณุพงศ์กล่าวต่อว่า เมื่อพวกเรากล้าออกมาเรียกร้อง หวังว่าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกล้าออกมา หลายท่านบอกว่าถ้าออกมาครอบครัวจะกินอะไร นั่นคือการที่ดูถูกตัวเอง เราออกมาเรียกร้องสิ่งสำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ ที่ต้องสามารถดำรงชีวิต หากินเองได้ ถ้ารัฐบาลดี มีสวัสดิการ ประชาชนจะอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ
“ทุกวันนี้มี 2 ฝ่าย คือประชาธิปไตยกับเผด็จการ การที่ท่านนิ่งเฉยคือเลือกข้างเผด็จการแล้ว ที่เป็นกลางคือเห็นแก่ตัว เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ของตัวเอง หรืออาจกำลังได้ประโยชน์อยู่ถึงไม่ออกมา” นายภาณุพงศ์กล่าว
ต่อมา เวลา 18.19 น. วงสามัญชน นำโดย นายณัฐพงษ์ ภูแก้ว หรือ แก้วใส ทำการบรรเลงดนตรีหมอลำ โดยมี นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน ร่วมดีดพิณให้จังหวะ ขณะที่ประชาชนลุกขึ้นฟ้อนอย่างคึกคัก
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด ตราบใดที่เรายังไม่ได้ประชาธิปไตย ไม่มีอะไรมาขัดขวางหัวใจนักต่อสู้ได้ ทุกคนควรจะได้ทำอาชีพอะไรก็ได้ที่อยากทำ ถ้ารัฐบาลดีเราคงมีเจ้าหน้าที่ที่ดีกว่านี้ ตำรวจก็จะไม่เหนื่อย
จากนั้นบรรเลงเพลง ‘อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
นายณัฐพงษ์กล่าวอีกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เห็นค่าประชาชน แต่บางสิ่งบางอย่างขอให้อยู่ภายใต้กรอบ
“ผมเคยคุยกับเจ้าหน้าที่บางคนเขาบอกว่า ทหารคือองค์กรที่แยกออกไป แต่ตำรวจซวย ที่รัฐบาลไหนเข้ามาต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลนั้น ขอเป็นกำลังใจให้ เจอกันทักได้ สลายชุมนุมก็เบาๆ เด้อ ลูกหลานกันทั้งนั้น” นายณัฐพงษ์กล่าว
ต่อด้วยการบรรเลงเพลง “เราคือเพื่อนกัน”
และว่า “ขอให้ประชาธิปไตยจงเจริญ”
เวลา 18.38 น. นายจตุภัทร์กล่าวว่า ประยุทธ์ออกไป คำเตือน ถ้าประยุทธ์ยังไม่ออก ก็จะเจอภาพแบบนี้ นายทุนทั้งหลายที่ยังเป็นนั่งร้านให้กับเผด็จการ ต่อจากนี้ไปเจอกับพวกเราแน่ จะมีผู้คนอีกมากมายที่เข้าไปแสดงจุดยืนว่าไม่เอาพวกคุณ
โดยนายจตุภัทร์นัดหมายชุมนุมวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) เวลา 16.00-18.00 น. ที่ห้าแยกลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า จะจัดกิจกรรมหล่อเทียนเป็นวันสุดท้าย จากนั้นวันที่ 25 กรกฎาคม จะมีการแห่เทียนพรรษา
ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 18.39 น.
