“ณัฐวุฒิ” เปรียบ การเลิกนำพลเรือนขึ้นศาลทหารเหมือนเอาเบ็ดเกี่ยวไว้แล้วบอกว่าต่อไปนี้จะไม่ใช้เบ็ดอีก
เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า คำอธิบายเรื่องการผ่อนคลายการใช้อำนาจคงใช้ไม่ได้ในกรณียกเลิกพลเรือนขึ้นศาลทหาร เพราะในความเป็นจริงกลุ่มที่เห็นต่างกับคสช.ถูกดำเนินคดีในศาลทหารกันหมดแล้ว เปรียบเหมือนเอาเบ็ดเกี่ยวไว้ทุกคนแล้วบอกว่าต่อไปนี้จะไม่ใช้เบ็ดอีก คำสั่งนี้จึงแทบไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากเพิ่มความชอบธรรมให้รัฐบาลต่อสังคมทั้งในและต่างประเทศ ส่วนข้ออ้างเรื่องหลักนิติธรรมนั้นยิ่งห่างไกลจากความเป็นจริง เพราะคำว่าหลักนิติธรรมต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนอยู่ภายใต้หลักกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่อำนาจสูงสุดอยู่ที่คนๆ เดียว ตราบใดที่ยังมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 และให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมีอำนาจตรวจค้น จับกุม ควบคุมตัวประชาชนได้เหมือนที่ผ่านมาก็ยังพูดเรื่องนิติธรรมไม่ได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า น่าจะเป็นการขยับทางยุทธศาสตร์ของฝ่ายผู้มีอำนาจหลังจากรัฐธรรมนูญผ่านประชามติและจัดโผทหารอย่างลงตัว เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของนายกฯ ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นเรื่องการเลือกตั้งตามโรดแมป และเสริมภาพลักษณ์เพื่อเป้าหมายทางการเมืองหรือไม่ ตอนนี้เรื่องเซตซีโร่พรรคการเมืองไม่น่าห่วง เพราะฝ่ายการเมืองแทบไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว ที่น่าติดตามมากกว่าคือ กระบวนการการเซตฮีโร่ เพื่อเข้าฮอร์สเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งว่าจะเดินกันอย่างไร
