‘ปูน’ ถาม นายกฯใหญ่มาจากไหน ‘พูดถึงไม่ได้’ ? ชวนร่วมสู้ ให้ ‘ความเจ็บปวด’ จบที่รุ่นเรา
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่แยกราชประสงค์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่ม “ทะลุฟ้า” นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จัดกิจกรรม “หล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร ออกไปไอ้สั*” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยเริ่มต้นวันที่ 20 กรกฎาคม บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, สวนลุมพินี และห้าแยกลาดพร้าว ตามลำดับ
เวลา 16.00 น. ที่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์ บรรยากาศทั่วไป มีการผลัดกันปราศรัยในประเด็นต่างๆ ขณะที่บริเวณลานกิจกรรม ประชาชนทยอยร่วมหล่อเทียนพรรษา ซึ่งประดับหมุดคณะราษฎรจำลอง โยงสายสิญจน์ ปักธูปบวงสรวง โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคน จะได้รับแจกสติ๊กเกอร์ลายต้านระบอบประยุทธ์ ไปจนถึงลายทวงวัคซีนไฟเซอร์
เวลา 17.26 น. นายธนพัฒน์ กาเป็ง หรือ “ปูน ทะลุฟ้า” กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ล่าสุดกองทัพจะซื้อรถฉีดน้ำ 5 คัน 87 ล้านบาท และโดรนอีก ความจริงคือ รัฐบาลมีอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือในการปราบประชาชน ความจริงสะท้อนไปแล้วว่าไทยคือประเทศที่พูดไม่ได้ นอกจากเลียไข่เผด็จการ เรารับไม่ได้กับความเป็นจริงแบบนี้ เราจึงออกมาต่อสู้
“คนฆ่าพ่อแม่ เรียก ‘ลูกทรพี’ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีฆ่าประชาชน เรียกว่า ‘ทรราช’ ไม่รู้ประยุทธ์เข้ามาทำอะไร แต่สิ่งเดียวที่รู้คือ ต้องขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเราแพ้ตั้งแต่เขาเริ่มเขียน จึงต้องแก้ให้กลับมาอยู่ตรงกลาง กฎหมายในมือที่ประยุทธ์ถือ สูงกว่ารัฐธรรมนูญ นี่คือความจริงในประเทศไทย ที่ต้องพูด
อย่าลืมว่า โคลนตม ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขวางประเทศอยู่ ต่อให้อาวุธครบ แต่กระสุนปืน หรือจะสู้คลื่นเสรีชน ขอให้รู้เถิดว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของใคร ปิดปาก ออกกฎหมาย ไม่อยากให้คนออกมาชุมนุม ก็ออกไปสิประยุทธ์ นายกฯใหญ่มาจากไหน ถึงหมิ่นไม่ได้ เจ้าของอำนาจอธิปไตยจึงไม่มีสิทธิพูดถึง” นายธนพัฒน์กล่าว และว่า
ขอเรียกร้องให้พระสงฆ์อยู่เคียงข้างความถูกต้อง อย่าให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องมาครอบงำ เพราะพระคือผู้ประเสริฐ ชี้นำความคิดคนได้ และตนก็อยากให้ชี้นำความคิดด้านประชาธิปไตยบ้าง
“อย่าส่งต่อความอัปยศให้ลูกหลานเลย ให้ความเจ็บปวดนี้ จบที่รุ่นเรา อย่าส่งต่อให้ครอบครัวของเราเลย
ในวันใดที่ประชาชนลุกฮือ และบอกว่า ข้านี่แหละจะพาประเทศไทยให้เจริญ ชนชั้นนำจะรู้สึกสูญเสีย จึงต้องทำให้เราไม่สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง วันนี้คือวันสำคัญ ที่จะเป็นประกายจุดชนวนความยิ่งใหญ่ให้ราษฎรรู้ว่า สุดท้ายอำนาจอธิปไตยก็ไม่สามารถมีใครบดบังไปได้” นายธนพัฒน์กล่าว
นายธนพัฒน์กล่าวต่อว่า ขอเชิญชวนออกมาร่วมกันเยอะๆ เผด็จการอยู่ได้ไม่นาน แต่ประชาธิปไตยจะฝังรากลึก ถ้าใครเห็นด้วยก็พร้อมจับมือเดินหน้าไป
จากนั้น ประชาชนเปล่งเสียงสัญญาว่า หากมีการชุมนุมที่ใด จะไปร่วมที่นั่น เพื่อแสดงพลังของประชาชน
