โฆษก กห. ชี้ทหาร-ตำรวจ เร่งเสริมกำลังลง พท.แดงเข้ม แยกผู้ป่วย-ฉีดวัคซีน

โฆษก กห. ชี้ทหาร-ตำรวจ เร่งเสริมกำลังลง พท.แดงเข้ม ร่วม กทม.-สธ. คัดแยกผู้ป่วยตามบ้านในชุมชน 50 เขต กทม. พร้อมเร่งฉีดวัคซีน ผู้สูงอายุ และคนกลุ่มโรคเสี่ยง

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเสริมกำลังตำรวจ ทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิดที่ยังมีการแพร่ระบาด และพบผู้ป่วยติดเชื้อตามบ้านและชุมชนมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มว่า เรากำลังเร่งช่วยกันคัดแยกผู้ป่วยเชิงรุก โดยทหาร ตำรวจได้จัดกำลังเสริมชุด CCRT ของ กทม. รวม 138 ชุด เร่งเข้าไปตรวจค้นหาเชิงรุกตามบ้านและชุมชนใน กทม. 50 เขต เพื่อแยกผู้ป่วยติดเชื้อออกจากชุมชน นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามสถานพยาบาลที่กำหนด พร้อมทั้งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่ม 8 โรคเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับถึงบ้านทันทีในคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นงานสำคัญเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันเร่งหยุดการกระจายของเชื้อร่วมกัน

ส่วนกรณีการเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกค้างตามบ้านและชุมชน กำลังทหารตำรวจ ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วย” โดยจัดยานพาหนะกว่า 200 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ หนุนเสริมเข้าไปช่วยทำงานร่วมกับ กทม. และกระทรวงสาธารณสุขตลอด 24 ชม. (ติดต่อสายด่วน 191, 1668, 1669, 1330 และศูนย์เคลื่อนย้ายฯ 06-2442-7903, 06-2350-2357) ช่วยเคลื่อนย้ายนำผู้ป่วยเข้ามาสู่ระบบการรักษาแล้ว รวม 14,635 ราย พร้อมกันนี้ ทบ.ได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด” เพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกกรณี ฟรีตลอด 24 ชม. ทั้งการรับ-ส่ง ผู้ป่วยและผู้หายป่วย รวมทั้งเคลื่อนย้าย ฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ ขณะเดียวกันได้จัดยานพาหนะและอากาศยาน สนับสนุนส่งกลับผู้ป่วยที่สมัครใจไปรับการรักษาในภูมิลำเนาตามความพร้อมของจังหวัดปลายทาง

Advertisement

เพื่อให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ทันต่อสถานการณ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กห. ได้สั่งการให้กองทัพจัดกำลังลงพื้นที่ ตั้ง “จุดบริการประชาชน” ในชุมชน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยกำลังทหารได้กระจายลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ แล้ว รวม 110 จุด โดยเป็นพื้นที่ใน กทม. 44 จุด เช่น ชุมชนวัดมะกอก สามพระยา วัดลาดบัวขาว วัดสะพาน สวนพลู ตลาดยิ่งเจริญและตลาดดินแดง เป็นต้น โดยประชาชนในพื้นที่สามารถแจ้งเหตุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ในทุกกรณี ซึ่งก็จะช่วยรองรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น

พล.ท.คงชีพยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ว่ากำลังทหารตำรวจได้สนับสนุน สธ.จัดตั้ง รพ.สนามต่อเนื่องมาแล้วกว่า 1 ปี ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ มี.ค.63 ปัจจุบันมี รพ.สนามในหน่วยทหารรวม 34 แห่ง ใน 24 จว. รวม 6,135 เตียง ใช้หมุนเวียนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องมา โดยบุคลากรทางการแพทย์ของ สธ.ร่วมกับกำลังพลของกองทัพที่จัดสนับสนุน

Advertisement

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทหารตำรวจใช้สโมสรทหาร ตำรวจทั่วประเทศ จัดตั้งเป็น รพ.สนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรงอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจและปรับปรุงสถานที่ร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด สำหรับสโมสรทหาร ตำรวจใน กทม. อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมเป็น รพ.สนาม โดย รพ.สนามสโมสร ทบ. รองรับผู้ป่วยได้ 300-400 ราย และ รพ.สนามสโมสร ตร. รองรับผู้ป่วยได้ 200 ราย คาดว่าจะเร่งเปิดใช้ได้ภายใน 30 ก.ค.64

“สถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรงขยายตัวเป็นวงกว้างต่อเนื่องยาวนานนี้ เป็นภัยต่อชีวิตและความยากลำบากของทุกครอบครัว ที่เราทุกคนจำเป็นต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเหลือดูแลกันและกัน ไม่เสียดสีโทษกล่าวว่าร้าย ทำลายกำลังใจกันเอง” พล.ท.คงชีพกล่าว และว่า

ขอยืนยันว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน” โดยตำรวจและทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงหนักแน่นมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนทำงานร่วมบุคลากรทางการแพทย์และทุกหน่วยงาน ต่อสู้กับโรคร้ายแรงนี้ไปด้วยกันต่อไป อย่างเข้มแข็งและอดทน เพื่อช่วยเหลือดูแลอยู่เคียงข้างทุกคน โดยหากมีปัญหาในทุกกรณี ขอให้ติดต่อทหารตำรวจในพื้นที่และช่องทางการสื่อสารได้ตลอด 24 ชม.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image