ครม.รับทราบ กพศ.กำหนดพื้นที่-แนวทางสิทธิประโยชน์ ส่งเสริมลงทุนพื้นที่ระเบียงศก.พิเศษ 4 ภาค

ครม. รับทราบ กพศ. กำหนดพื้นที่-แนวทางให้สิทธิประโยชน์ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงศก.พิเศษ 4 ภาค-เปิดประมูลสรรหาผู้ได้รับสิทธิพัฒนาเขตพัฒนาศก.ฯตาก

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ(กพศ.)ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดย กพศ.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการกำหนดพื้นที่และแนวทางการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี และหนองคาย, ภาคกลาง-ตะวันตกได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี และภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และมอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์ กำหนดพื้นที่ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ พิจารณากำหนดขอบเขตพื้นที่ของแต่ละระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ กิจการเป้าหมาย และสิทธิประโยชน์ แล้วนำเสนอกพศ.ต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้จังหวัดที่อยู่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 4 ภาค ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ พิจารณาจัดตั้งกลไกการบริหารจัดการในระดับพื้นที่ เพื่อประสานการขับเคลื่อนการพัฒนาให้เป็นไปตามนโยบายของกพศ.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กพศ.ยังได้พิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 แห่ง ได้แก่  เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สงขลา สระแก้ว ตราด หนองคาย นครพนม มุกดาหาร เชียงราย กาญจนบุรี และนราธิวาส โดยแนวทางการดำเนินงานจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาและเชื่อมโยงฐานการผลิต และบริการกับพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศ การจูงใจให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการแรงงานและผู้ประกอบการ โดยจะจัดตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น ด้านสิทธิประโยชน์ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กพศ. ได้เห็นชอบให้เทศบาลตำบลสำนักขาม ใช้พื้นที่ประมาณ 19 ไร่  ในที่ราชพัสดุในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาของแปลงที่จะจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)เช่า(แปลงที่ 2) เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงโครงการนิคมอุตสาหกรรมสงขลากับด่านศุลกากรสะเดา แห่งที่ 2  พร้อมทั้งเห็นชอบให้เปิดประมูลสรรหาผู้ได้รับสิทธิพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก และมอบหมายให้กรมธนารักษ์ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image