‘ศักดิ์สยาม’ สั่งเอาผิดแฮกเกอร์เจาะเข้าระบบทรู ฉวยสิทธิฉีดวัคซีนไปขายต่อหัวละ 500-1,000 บาท ลั่นผู้ซื้อสิทธิมีโทษถึงจำคุก 3-10 ปี
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการบริหารจัดการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อว่าขณะนี้ได้รับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข โดยแพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลาง บางซื่อ ว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการจับทุจริตของผู้ที่เข้ามารับวัคซีนที่บางซื่อ โดยพบว่ามีบุคคลแฮกระบบผ่านบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเข้าร่วมในการลงทะเบียนบุคคลให้เข้ามารับวัคซีน ได้มีการนำโควต้าไปขายสิทธิ
“ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำดังกล่าวมาแล้ว 3 วัน วันละ 1,500 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ที่ซื้อสิทธิมาและมาใช้สิทธิฉีดวัคซีนสารภาพว่ามีการจ่ายค่าหัวสิทธิในการมาฉีดวัคซีนถึงหัวละ 500-1,000 บาท ในเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมในฐานะเข้าของพื้นที่ และกระทรวงสาธารณสุขไม่นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากถือว่าเป็นคดีฉ้อโกง และผู้เสียหายคือกรมการแพทย์ ที่เป็นผู้แจ้งความ อย่างไรก็ตาม จึงได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบในผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบที่มาเข้าร่วม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแบบกรณีดังกล่าวขึ้นมาอีก”
นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ไปซื้อสิทธิเพื่อที่จะเข้ามารับการฉีดวัคซีนแล้วถูกจับได้นั้น เบื้องต้นคนที่ซื้อสิทธิมาถ้าให้ความร่วมมือให้ปากคำและให้หลักฐานการโอน การติดต่อกับตัวกลาง ทางกระทรวงสาธารณสุขจะกันเป็นพยานและจะฉีดวัคซีนให้ แต่ถ้าไม่ให้ความร่วมมือทางเจ้าหน้าที่ก็จะไม่ฉีดวัคซีนให้และเป็นผู้ต้องหาต่อไป
“ดังนั้น จึงขอเตือนผู้ที่คิดจะกระทำความผิด อย่าไปซื้อสิทธิ เพราะหากถูกจับได้อาจมีความผิดโทษถึงจำคุก 3-10 ปี นอกจากนั้น ได้มีการสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นหรือไม่ ถ้ามีเข้าร่วมกระบวนการ หากมีจะต้องรับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย ขอให้ประชาชนทุกท่านลงทะเบียนตามระบบ อย่าหลงเชื่อผู้ที่นำสิทธิต่างๆ มาเสนอขายให้ เพราะบริษัทเครือข่ายมือถือที่เข้ามาร่วมให้บริการลงทะเบียนมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด
เมื่อถูกตรวจสอบได้ท่านจะต้องถูกตัดสิทธิเพื่อไปเข้าระบบที่ถูกต้องใหม่อีกครั้ง จะทำให้เสียทั้งเงิน เสียเวลา และอาจตกเป็นผู้ทำผิดกฎหมาย แต่หากเข้าตามระบบทุกคนจะได้รับวัคซีนตามการจัดกลุ่มลำดับความเสี่ยงอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมีนโยบายรัฐบาลจัดหาวัคซีนให้ประชาชนทุกคน”
