“ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ร่อนคำชี้แจง ลั่นไม่เคยขอขมา”เกียรติ สิทธีอมร”ต่อหน้าบัลลังก์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งคำชี้แจงถึงสื่อมวลชน เรื่อง ขอชี้แจงข่าวกรณี “เสียฟอร์ม! ยุทธพงศ์ ยอมขอขมาเกียรติ กล่าวหาทุจริต ฟิลลิป มอร์ริส” โดยระบุว่า ตามที่มีข่าวว่า ผมได้ไปขอขมา นายเกียรติ สิทธีอมร ต่อหน้าบัลลังก์ศาลแพ่ง ปมกล่าวหาทุจริตภาษีบุหรี่นอก 68,000 ลบ.ของ บ.ฟิลลิป มอร์ริส, ผมขอเรียนชี้แจงว่า “ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด”

คือเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2559 ที่ศาลแพ่งได้มีการพิจารณาคดีที่นายเกียรติ สิทธีอมร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้แทนการค้าไทย เป็นโจทย์ฟ้อง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำเลย ในฐานะหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในข้อหาคดีแพ่ง “ฐานความผิดหมิ่นประมาท เรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 200 ลบ.” และเมื่อโจทก์ได้ฟ้องฯ คดีแพ่ง, ศาลแพ่ง ได้มีคำสั่งฯ ให้รอผลคดีฯ อาญา จนถึงที่สุด ก่อน

และต่อมา ทนายโจทก์ (นายเกียรติฯ) แถลงว่า ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญาแล้วและศาลได้อ่านคำพิพากษาในวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ศาลแพ่ง ได้ไกล่เกลี่ยคู่ความบนบัลลังก์ ศาลได้ตรวจดูคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว “ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์”

ในการพิจารณาคดีที่ ศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2559 มีรายละเอียดฯ ดังนี้

Advertisement

1.ศาลแพ่งอยู่ในช่วงวาระไกล่เกลี่ยเฉลิมพระเกียรติ
2.ศาลแพ่งจึงได้ไกล่เกลี่ยคู่ความฯ ระหว่างโจทก์ และ จำเลย
3.โจทก์ (นายเกียรติฯ) และจำเลย (นายยุทธพงศ์ฯ) “เห็นด้วยกับศาลฯที่ทำการไกล่เกลี่ย” ว่าโจทก์และจำเลยได้ต่อสู้คดีฯ อาญา กันมาถึง 3 ศาล (ชั้นต้น, อุทธรณ์,ฎีกา) เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี แล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2554
4.จำเลย เห็นว่าการที่จำเลย ถูกฟ้อง เป็นการทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง ที่ตรวจสอบการทุจริต ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่อย่างใด จำเลยมีความเป็นสุภาพบุรุษ และมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และ “ไม่เคยคิดที่จะฟ้องกลับโจทก์แต่อย่างใด”

และอยู่ในช่วงไกล่เกลี่ยเฉลิมพระเกียรติของศาลแพ่ง จำเลยได้รู้สึกเสียใจ และขออภัยต่อโจทก์ในเรื่องของการทำงานฯทำหน้าที่ฯ ของนักการเมือง ในการตรวจสอบเรื่อง ภาษีบุหรี่ฯ นี้ “ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวฯ” ในฐานะที่โจทก์ อาวุโส กว่าจำเลย และโจทก์เป็นรุ่นพี่ ที่จบการศึกษามาจากสถาบันการศึกษาเดียวกันคือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยดู (รายละเอียดตามคำพิพากษา) ซึ่งจำเลยไม่เคยไปขอขมาโจทก์ หรือขออภัยต่อโจทก์ ในเนื้อหาสาระของคดีฯ แต่อย่างใด เพราะมีคำพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว โดยศาลฎีกา “ยกฟ้อง” ในคดีฯ นี้ไปแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image