ทีมโฆษกรบ. แจง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ลุยต่อ หลังเพิ่มมาตรการเข้ม 3 ส.ค.นี้ ชี้ คนในประเทศเข้าไม่ได้ แต่ต่างประเทศเข้าได้
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงกรณี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงมาตรการต่างๆที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 – 16 สิงหาคมนี้ ว่า เบื้องต้นภายในประเทศไม่สามารถเดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ตได้ แต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้
นายอนุชา กล่าวว่า แจ้งให้เคลียร์ว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยนักท่องเที่ยวยังเดินทางเข้ามา ซึ่งเวลานี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาสะสมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ประมาณ12,500 กว่าคน และเตรียมที่จะเดินทางเข้ามาเพิ่มอีก ยอดจองห้องพักเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน มีเกือบ 300,000 ห้อง ฉะนั้นการเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ประชาชนในพื้นที่ยังสนับสนุน การมีมาตรการต่างๆเพิ่มขึ้นเป็นในเรื่องของเฉพาะสถานการณ์ ฉะนั้นคนไทยมีประเด็นในเรื่องของการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต แต่ต่างชาติยังสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามนโยบาย ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 14 วันไม่ต้องกักตัว’
นายอนุชา กล่าวว่า สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในภูเก็ตตอนนี้คือการสร้างบรรยากาศที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวไปด้วยกัน การมีภาพข่าวคนนอนเสียชีวิตข้างถนนเมื่อไม่เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องจริง ฉะนั้นขอแจ้งให้เคลียร์ว่าที่ภูเก็ตไม่มีผู้เสียชีวิตโดนทิ้งอยู่ตามท้องถนนทุกคนได้รับการรักษา ถึงแม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อแต่ก็ไม่มาก
“ขอให้สบายใจว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังคงเดินหน้าต่อไป ส่วนบรรยากาศในการท่องเที่ยวอยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจประชาชนในพื้นที่ก็จะได้ช่วยกันเศรษฐกิจและทุกเรื่องที่กำลังกระเตื้องขึ้นจะได้กลับมาได้โดยเร็ว” นายอนุชา กล่าว
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลจากพื้นที่จริง การที่ได้เปิดประเทศในส่วนของจังหวัดภูเก็ตแล้วผลที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมกับชีวิตความเป็นอยู่ในจังหวัดภูเก็ตคือพนักงานได้รับเงินเดือนเต็ม จากที่ผ่านมาได้รับเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ร้านค้า ร้านขายของผู้ประกอบการรถรับจ้าง ค่อยค่อยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น อยากให้คนไทยทุกคนเข้าใจสถานการณ์และนโยบายของรัฐบาลตรงนี้ และประคับประคองให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดินหน้าต่อ แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นในพื้นที่อื่นที่สามารถมีการบริหารจัดการได้ ก็จะขยายในการเปิดประเทศมากขึ้น แต่มาตรการการควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดจะต้องดำเนินกันอย่างเข้มข้นพร้อมกับการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้น
