‘เสกสกล’ เตือน ‘ณัฐวุฒิ’ หยุดคะนองปาก ยัน ‘บิ๊กตู่’ ไม่ทิ้งงาน-ไม่ทิ้ง ปชช. รู้ทัน หวังปลุกมวลชนลงถนน ได้เก้าอี้การเมือง เป็นรางวัลตอบแทน
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และให้สภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกฯ จากบัญชีว่าที่นายกฯ ที่มีอยู่ หรือโหวตเพื่อเปิดทางให้มีนายกฯ จากคนนอกบัญชีว่า ตนฟังแนวคิดของนายณัฐวุฒิแล้วก็เศร้าใจ ที่พยายามทำทุกวิถีทางที่จะล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ แต่ในที่สุดก็เข้าอีหรอบเดิม อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ อยากเปลี่ยนนายกฯให้ได้จนตัวสั่น ใช้ความเพลี่ยงพล้ำจากวิกฤตโควิดมาซ้ำเติมประเทศ โดยหารู้ไม่ว่าความเสียหายเกิดกับคนไทยทุกคน
ในสภาวะบ้านเมืองเป็นแบบนี้แทนที่จะเห็นอกเห็นใจประชาชนช่วยเหลือดูแลประชาชนเหมือนอย่างที่คนอื่นเขาทำ เอาข้าว เอาน้ำ ยารักษาโรคไปช่วยเหลือดูแล หรือซื้อเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์เหมือนอย่างที่คนอื่นหรือศิลปินดาราหลายคน ที่ไม่ต้องการป่าวประกาศเขาทำกันน่าจะดีกว่าหรือไม่ ใช้มือทำดีกว่าใช้ปากพูด แบบนี้น่าจะเป็นประโยชน์กว่า เรื่องการบ้านการเมืองขอร้องให้พักไว้ก่อน รอให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นกันทั่วโลกก่อน ถึงตอนนั้น อยากจะพูดอะไรก็พูดเลย แต่ขอให้เป็นข้อเท็จจริง ประเภทพูดป่าวๆ ท่องเป็นบทกลอนในฐานะนักพูดนั้น ประชาชนเขารู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว
นายเสกสกลกล่าวว่า ประสบการณ์ทางการเมืองอย่างนายณัฐวุฒินั้นน่าจะรู้ดีว่าอะไรจริง อะไรเท็จ พูดจริงเป็นอย่างไร และพูดเท็จผลของคืออะไร อย่าได้คะนองปากในช่วงที่ประชาชนกำลังลำบาก และบุคลากรทางการแพทย์กำลังทำงานอย่างหนัก นายณัฐวุฒิเองก็รู้ดีว่าโควิดมันรุนแรงและน่ากลัวขนาดไหน ขนาดนายณัฐวุฒิเองก็จวนเจียนจะเป็น ไม่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นมันใช่เวลาที่จะมาแซะกันในเรื่องทางการเมืองในตอนนี้หรือไม่ ยืนยันว่านายกฯ ไม่ท้อและไม่ทิ้งงานที่บริหารอยู่ในขณะนี้แน่นอน ประชาชนกำลังเดือดร้อน นายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทีมแพทย์ก็ยังคงประชุมหารือกันทุกวัน ทั้งเรื่องการตรวจหาเชื้อ การขยายเตียง การขยายจุดฉีดวัคซีน รวมถึงวัคซีนก็ทยอยเข้ามาแล้ว ทุกฝ่ายพยายามหาวิธีกันตลอดทุกวัน ไม่ได้มีเวลามารับฟังเรื่องต่างๆ ที่คนที่ไม่ได้ใช้สมองคิดออกมาพ่นน้ำลายหรอก วันๆ คิดแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญๆ จนประชาชนเบื่อหน่ายกันหมดแล้ว ถ้านายณัฐวุฒิหยุดคิดริษยาได้ ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศอย่างมาก
“คงอยากจะลงถนนให้บ้านเมืองหายนะอีกครั้งหรือไม่ เพราะแกนนำได้รางวัลต่างตอบแทนเป็นรัฐมนตรีถึง 2 กระทรวง การลงบนถนนก้าวข้ามศพประชาชนคนเสื้อแดงไปเอาตำแหน่งเสนาบดีใหญ่โต ยังหวังจะใช้แผนเดิมเพื่อจะได้กลับมารับรางวัลตอบแทนอีกไช่ไหม ผมก็อยากบอกว่าประวัติศาสตร์บางครั้งก็ไม่ได้บันทึกซ้ำรอยเสมอไป อย่าคิดว่ามวลชนจะรู้ไม่ทันว่าใครสู้แล้วรวย ใครสู้แล้วได้ดิบได้ดีเอาตัวรอด แต่คนที่เจ็บและชอกช้ำที่สุดคือมวลชนที่ถูกหลอกมาบาดเจ็บล้มตายบนท้องถนน ทอดทิ้งมวลชนอย่างเจ็บปวดหัวใจ ถ้าอยากรู้อะไรดีๆ ว่าจริงหรือไม่ ให้ไปถามนายสมหวัง อัสราษี อดีตเหรัญญิก นปช.เอาเอง ถูกกรมสรรพากร เรียกเก็บภาษี 572 ล้านบาท จนยอมล้มละลาย สาเหตุเป็นเพราะอะไร” นายเสกสกลกล่าว
