เคลื่อนพล! ‘ราษฎร’ มุ่งวิภาวดี บีบแตรสนั่น I here too ‘เพนกวิน’ ลั่นวันนี้ ‘ประยุทธ์’ ต้องมีร้อน
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนัดหมายชุมนุมคาร์ม็อบ นำโดย กลุ่มราษฎร แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งกำหนดตั้งขบวนเวลา 10.30 น. ก่อนปราศรัย และเคลื่อนพลไปร่วมคาร์ม็อบใหญ่ “สมบัติทัวร์” ที่นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ที่ถนนวิภาวดี-รังสิต เพื่อขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรียกร้องรัฐบาลใหม่ที่มาจากประชาชนตามวิถีทางประชาธิปไตย
เวลา 12.03 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำราษฎร กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ใครที่เกลียดชังประยุทธ์และองคาพยพเข้าไส้ ร่วมกันบีบแตรให้ ตลอด 7 ปี ขอให้ฟังเสียงแตรนี้ว่าได้ก่อกรรมทำเข็ญอะไรกับประชาชนไว้บ้าง และวันนี้พวกเราจะมาไล่ ประชาชนได้รวมตัวขับไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ พล.อ.ประยุทธ์และพรรคพวกยังหน้าด้านหน้าทน ไม่สนใจว่าประชาชนกำลังเรียกร้องอะไร แต่ ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ความล้มเหลวของประยุทธ์ปรากฏต่อสายตาประชาชน
“แม้แต่นายอนุทินยังเริ่มส่งสัญญาณว่ามันจบแล้วครับนาย องคาพยพเริ่มตั้งคำถาม ส่ายหน้าหมดทั้งแผ่นดินแล้ว ประเทศนี้ไม่เคยคิดเอาราษฎรเป็นตัวตั้ง เอาแต่อำนาจตัวเอง
แล้วประชาชนก็ตายตามยถากรรม นอนรอความตายอยู่ที่บ้าน ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทิ้งประชาชนให้นอนตายข้างถนน กั๊กวัคซีน เตียงไม่พอ ต้องมีประชาชนมาแจกข้าวช่วยประชาชนไร้บ้านด้วยกัน ถ้ามีจิตสำนึก จะมาช่วย แต่รัฐบาลเฮงซวย ประชาชนจึงต้องช่วยกันเอง คือจุดเริ่มต้นของจุดจบของรัฐบาลประยุทธ์
1 ส.ค. วันนี้คือวันที่ประยุทธ์ ชจะรู้สึกร้อนๆ ราษฎรคือหนึ่งขบวนที่ถนนทุกสายจะมุ่งหน้าไปไล่ประยุทธ์ ที่วิภาวดีรังสิต เราใช้ความหลากหลาย แสดงให้เห็นว่า ถ้ารักประเทศไทยต้องออกมาขับไล่ประยุทธ์ในวันนี้ รวมถึงนั่งร้านที่มาเป็นเสาค้ำให้กับระบอบนี้” นายพริษฐ์กล่าว
โดยประชาชนบีบแตรใส่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ส.ว.และกลุ่มทุน
เวลา 12.14 น. นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรีที่จะมาร่วมกับราษฎรถูก สภ.รัตนาธิเบศร์ จับกุมไว้
โดยประชาชนร่วมบีบแตรกระหน่ำ
“ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ประกาศว่า คุณมีเวลา 7 วันอย่างเป็นทางการในการพิจารณาตัวเอง ว่าจะเห็นแก่ประเทศด้วยการถอนตัวออกไป ลงจากตำแหน่งเสียดีๆ ก่อนถึงวันที่ 7 ถ้าลงตอนนี้ยังมีทางรอด แต่ถ้ารอวันที่ 7 จะไม่มีคำว่าประนีประนอม ประชาชนจะตามล่าคุณ ครั้งนี้ไม่มีคำว่าแพ้ หรือถอยแต่ประการใด จะเป็นจุดแตกหักของรัฐบาลหรือไม่ กำหนดที่พลังของพี่น้องทุกคน วันนี้เราไปปิดถนนหน้าบ้าน ถือว่าเป็นคำเตือน อย่าให้ประชาชนต้องปิดถนนทั่วประเทศ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปสระบุรี วันนั้นจะไม่มีประเทศให้อยู่ เราทุกคนจะช่วยกันเสกเดือนสิงหาคมให้เป็นจุดจบของรัฐบาลประยุทธ์ และคณะ ถ้าไม่ออกไปก็นอนตายคางเหลืองอยู่ในทำเนียบรัฐบาล
ให้ทุกที่ บ้านทุกหลังของคนร่วมรัฐบาลคือสนามรบของประชาชน ส.ส. ส.ว. ครม. จะไม่ได้อยู่เป็นสุขจนกว่าจะถอนตัวร่วมรัฐบาล ถ้าไม่เชื่อพวกเราจะไปพิสูจน์พลังของประชาชน” นายพริษฐ์กล่าว และว่า พร้อมยังพี่น้อง
โดยประชาชนตอบกลับ พร้อมแล้ว พร้อมบีบแตร
เวลา 12.37 น. เคลื่อนขบวนบนถนนราชดำเนิน ถึงแยกผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถนนพิษณุโลก นำโดยธงราษฎร รถจักรยานยนต์ รถแห่ ต่อด้วยรถยนต์ราษฎร รถยนต์ราษฎรบอกสัญญาณ รถยนต์ (รถน้ำ) รถยนต์ 2 รถยนต์มวลชน ปิดท้ายขบวนตามลำดับ พร้อมบีบแตรและเปิดไฟกะพริบเพื่อส่งสัญญาณร่วมขบวน
ขณะที่ นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือ “ยาใจ ทะลุฟ้า” กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมขบวนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ตลอดทาง ด้านประชาชนส่งเสียงประยุทธ์ออกไป “i here too”
เวลา 12.43 น. หัวขบวนเลี้ยวขวาผ่านแยกนางเลิ้งมุ่งหน้าแยกยมราช ระหว่างนี้มีการเปิดประกาศ ศบค.ถึงยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวัน และการแถลงรายวันของ กระทรวงสาธารณสุข
เวลา 12.55 น. ขบวนเคลื่อนถึงถนนเพชรบุรี
สำหรับการเคลื่อนขบวนของกลุ่มราษฎร แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เข้าสู่ถนนนครสวรรค์ เลี้ยวขวาเข้าถนนพิษณุโลก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพญาไท จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนราชวิถี มุ่งหน้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นระยะทาง 24.4 กิโลเมตร
จากนั้นไปกลับรถบริเวณสนามบินดอนเมือง ซึ่งมีขบวนของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ตั้งแถวบริเวณนั้น ก่อนเคลื่อนขบวนพร้อมกันบนถนนวิภาวดีรังสิต ผ่านแยกบางเขน ห้าแยกลาดพร้าว และกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ร่วมกิจกรรมได้นำกระดาษที่เขียน หรือพิมพ์ข้อความขับไล่รัฐบาลและ พล.ประยุทธ์ รวมไปถึงความผิดพลาดจากการบริหารงานโรคโควิด-19 และการจัดการวัคซีนมาติดที่รอบรถ อาทิ “จำนวนคนตายไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือชีวิตและเป็นคนในครอบครัวของใครสักคน” ไปจนถึงติดสติ๊กเกอร์บังป้ายทะเบียนเพื่อเลี่ยงการถูกดำเนินคดีย้อนหลัง บางส่วนติดธงของกลุ่ม โดยมีประชาชน 2 ข้างทางร่วมสังเกตการณ์ บันทึกภาพ บางรายร่วมชู 3 นิ้วให้กำลังใจ
ด้านสมาชิกกลุ่มทะลุฟ้าขับรถจักรยานยนต์แจกจ่ายสติ๊กเกอร์แก่ผู้ร่วมกิจกรรมและประชาชนสองข้างทาง
เวลา 13.20 น. กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก นำโดย วาดดาว และแร็พเตอร์ ตั้งรถปราศรัย บริเวณถนนราชปรารภ พร้อมกล่าวทักทายมวลชนที่เคลื่อนผ่าน มีการเปิดเพลงสร้างสีสันพร้อมโบกสะบัดธงไพรด์
เวลา 13.52 น. รถปราศรัยของแกนนำราษฎร เคลื่อนช้าๆ บนถนนวิภาวิดีรังสิต เข้าร่วมกับขบวนสมบัติทัวร์ ถึงกรมดุริยางค์ทหารบก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรมทหารราบที่ 1 ระหว่างนี้มีการเปิดเสียงคลับเฮ้าส์ โดยสตรีรายหนึ่งพูดถึงการบริหารจัดการโรคระบาด โควิด-19 กับแรงงานข้ามชาติ และประชาชนส่วนภูมิภาค เช่น ‘เถียงนาโมเดล’ ตามคำเสนอของ โฆษก ศบค. ซึ่งไม่สามารถทำได้จริงโดยเฉพาะเพศหญิงที่อาจเกิดอันตรายได้
พิมพ์ทอง ประชาชนหญิง กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องออกมาขับไล่พลเอกประยุทธ์ และต้องฟ้องร้องรัฐบาลให้ชดใช้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไปจนถึงต้องกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในด้านการเงินการคลังด้วย เนื่องจากท้องถิ่นมีไอเดียอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีงบประมาณด้วย ให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหารจัดการและตัดสินใจ รวมถึง เปลี่ยนโครงสร้างการจัดเก็บภาษีของแต่ละท้องที่ นอกจากนี้ ยังวิพากษ์วิจารณ์โครงการโรงรับจำนำ
พร้อมกล่าวเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันส่งเสียงแช่งทั่วประเทศ
“เพราะสถานการณ์ ณ ปัจจุบันในต่างจังหวัดยากลำบากมาก เพราะไม่มีวัคซีนที่มีคุณภาพ ลงชื่อขอฉีดวัคซีน จนเวลานี้ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะได้รับ เป็นอะไรนักหนากับซิโนแวค เอาไปฉีดให้กองทัพก่อน” พิมพ์ทอง กล่าว
เวลา 14.02 น. นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวผ่านคลับเฮ้าส์ว่า ขออภัยที่ไม่สามารถมาร่วมขบวนได้ เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับ และขอส่งเสียงไปยังปิยะ ต๊ะวิชัย รู้ว่ากำลังจับตาดูเครือข่ายเราอยู่ ผมขอแสดงความเสียใจเพราะพี่น้องมาที่บ้านพักพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เยอะจริงๆ
“มีกระแสมาว่า จะโดนหัวละ 40,000 – 50,000 บาท ทั้งที่ยังไม่ตั้งข้อหา จึงอยากส่งเสียงนี้ไปยังตำรวจอีกครั้ง ทหารตำรวจเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชน และทุกวันนี้พวกท่านก็ตกเป็นเหยื่อ ไม่ได้รับวัคซีน คำนวณดู ตายวันละ 100 คน 10 วันก็ 1,000 ถ้า 30 วันก็ 3,000 ถ้าเป็นลูกหลานของคุณ ของท่าน จะรู้สึกเศร้าหรือไม่” นายเจษฎากล่าว
เวลา 14.19 น. บริเวณรั้วกรมทหารราบ ที่ 1 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชายบางส่วน จอดรถจักรยานยนต์ ริมแนวตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนพยายามนำรั้วหีบเพลงออก ขณะที่รถปราศรัยของกลุ่มราษฎร ยังคงอยู่ที่บริเวณกรมดุริยางค์ทหารบก บางส่วนนำสติ๊กเกอร์ #ไล่ประยุทธ์ มาติดที่รั้วลวดหนาม และคอนเทนเนอร์ ระหว่างนี้ ประชาชนชายอีกส่วน หารือว่า จพทำอย่างไรกับตู้คอนเทนเนอร์ บางส่วนกล่าวทักทาย ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่อยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์
เวลา 14.32 น. เริ่มเคลื่อนขบวนบนถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก ผ่านกรมทหารราบที่ 1 โดบประชาชนตะโกนส่งเสียงขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง อาทิ “ประยุทธ์ออกไป” “ลาออกไปได้แล้ว” บางรายสบถ และสาปแช่ง
เวลา 14.49 น. ที่ บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทางเข้ากรมทหารราบที่ 1 เยาวชนหญิง กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียง ถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และทหาร ที่ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ และว่า “ต้องให้เด็กมาด่า”
ด้าน ประชาชนชาย กล่าวว่า เอาอาหารเปียก หรืออาหารแห้ง ชุดที่ใส่มาเนี่ย ก็เงินภาษีพวกเรา ที่กันแก๊ส กันกระสุนอะ เอามาให้พวกกู พวกกูโดน
เวลา 14.52 น. ทีมงานประกาศให้ตั้งขบวนใหม่ เตรียมเคลื่อนพลไปสนามบินดอนเมือง โดยประชาชนประจำรถจักรยานยนต์ของตน
เวลา 15.01 น. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน กล่าวว่า ใครรู้ตัวว่าเป็นเจ้าของประเทศ บีบแตรดังๆ นี่คือ 7 ปีแห่งความฉิบหาย ไร้โอกาสพัฒนา ยังพาประเทคไทยถอยหลัง เราจึงต้องมาร่วมกัน ณ วันนี้ เพื่อให้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับรู้ ประชาชนจะไม่ใช่ผู้ชม แต่จะลงมาเป็นผู้เล่น และจะเอาชนะให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด การต่อสู้ครั้งนี้ จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย อีก 10 ปี 100 ปี ใครอยากเขียนหน้าประวัตศาสตร์ร่วมกัน ร่วมกันบีบแตรดังๆ หนังสือประวัติศาสตร์การต่อสู้ เขียนถูกเขียนขึ้นทุกวันๆ โดยมีเราคือตัวละครอยู่ในนั้น จะถูกจารึก ว่าประชาชนคนไทย ไม่เอาเผด็จการแล้ว
เวลา 15.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะขบวนราษฎร เคลื่อนบนถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ผ่านแยกสุทธิสาร ขบวนสมบัติทัวร์ ได้เคลื่อนสวนกับขบวนของกลุ่มราษฎร บน ถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า โดยประชาชนที่อยู่บนรถได้ร่วมชู 2 นิ้ว ให้แก่กัน พร้อมบีบแตรตลอดทาง
