ต้องส่งแบบแสดงรายการเสียภาษีของ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ให้กับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านหยกๆ นี้มีข่าวใหญ่คือ ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้สั่งให้กรมสรรพากรสหรัฐส่งสำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 6 ปีย้อนหลังให้กับคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ตามคำร้องขอของคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้เอง ทั้งนี้เป็นการกลับคำสั่งเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวเนื่องจากใน พ.ศ.2562 ทางคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ร้องขอให้กรมสรรพากรสหรัฐส่งสำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (ขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอยู่) ให้กับคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อการสอบสวนว่ามีการทุจริตในการเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งครั้งนั้นทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐปฏิเสธโดยอ้างว่า “ไม่เหมาะสม”

โดยความจริงแล้วตามกฎหมายประธานาธิบดีไม่จำเป็นต้องเปิดเผยแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีต่อสาธารณชน แต่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของประธานาธิบดีของสหรัฐทุกคนตั้งแต่ พ.ศ.2519 หรือ 45 ปีมาแล้ว เพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใสว่าตนเองนั้นมิได้ทุจริตคอร์รัปชั่นต่อสาธารณชน ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ควรเปิดเผยแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของประธานาธิบดี แต่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีต่อสาธารณชน โดยอ้างว่าไม่มีกฎหมายบังคับ

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นบุคคลอายุมากที่สุดที่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ (ในขณะนั้น) และมีทรัพย์สินมากที่สุดที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นบุคคลแรกที่ไม่เคยเป็นทหาร หรือข้ารัฐการมาก่อน และเป็นบุคคลที่สี่ที่ได้รับเลือกตั้งโดยไม่ได้คะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งข้างมากทั่วประเทศ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวข้อความเท็จหรือชักจูงให้เข้าใจผิดเป็นพันๆ ครั้งทั้งก่อนดำรงตำแหน่งและระหว่างอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งมีผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงบันทึกไว้ และสื่ออธิบายปรากฏการณ์นี้อย่างกว้างขวางว่าไม่เคยมีมาก่อนในการเมืองสหรัฐอเมริกา

ความจริงหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์เคยได้รับสำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมากกว่า 20 ปีย้อนหลังมาตั้งแต่ พ.ศ.2563 (ยกเว้นแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปี พ.ศ.2561 และ 2562) และได้รายงานในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์เองว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ เสียภาษีให้รัฐบาลสหรัฐเพียง 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22,500 บาท) ในปีที่เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เสียภาษีอีก 750 ดอลลาร์สหรัฐ ในปีแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

Advertisement

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้เสียภาษีแม้แต่ 1 ดอลลาร์สหรัฐให้กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 10 ปี ของ 15 ปีก่อนที่เขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเขาแจ้งต่อสรรพากรสหรัฐว่าเขาขาดทุนในการทำธุรกิจเป็นเงินจำนวนมหาศาลทำให้เขาต้องถูกตรวจสอบบัญชีเงินได้ รับ-จ่ายย้อนหลังหลายปีที่เขาอ้างว่าขาดทุนนั้นว่า ถูกต้องกับความจริงหรือไม่จากกรมสรรพากรสหรัฐ ซึ่งทรัมป์ได้ใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ยอมเปิดเผยแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของเขามาโดยตลอด

ในช่วงที่ทรัมป์รณรงค์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2563 ก็มีข่าวว่าสถานการณ์ทางการเงินของเขาตกอยู่ในสภาวะคับขันเพราะหนี้สินจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐของเขาจะถึงกำหนดเส้นตายแล้ว และปัญหาการตรวจสอบบัญชีรายได้ รับ-จ่ายของเขาที่ทางกรมสรรพากรสหรัฐกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะเงินภาษีที่ทรัมป์ได้รับคืนเป็นจำนวน 72.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรายงานว่าได้ขาดทุนไปเป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งอาจจะทำให้เขาต้องจ่ายเงินคืนให้กรมสรรพากรสหรัฐมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น การที่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้สั่งให้กรมสรรพากรสหรัฐส่งสำเนาแบบแสดงรายการเสียภาษีประจำปีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 6 ปีย้อนหลังให้กับคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น อาจนำไปสู่การฟ้องร้องต่อทรัมป์ในคดีอาญาที่เขาหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้ ซึ่งเคยทำให้ “อัล คาโปน” หัวหน้ามาเฟียใหญ่แห่งชิคาโกในอดีตติดคุกจนเสียชีวิต ด้วยคดีหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้นี้เอง หาใช่คดีอาญาที่ร้ายแรงอย่างอื่นไม่

นายกวินน์ ไดย์เออร์ คอลัมนิสต์ผู้เขียนบทความที่ได้รับการตีพิมพ์จากหนังสือพิมพ์ 175 ฉบับใน 45 ประเทศได้คาดการณ์ไว้ว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ต้องติดคุกหัวโตอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้เนื่องจากเขาโดนฟ้องร้องด้วยคดีต่างๆ ทั้งคดีแพ่งและอาญา รวมทั้งคดีข่มขืน คอร์รัปชั่น ให้และรับสินบน การฟอกเงิน หลีกเลี่ยงและโกงภาษี ฯลฯ ร่วมร้อยคดี แต่เขาก็ปฏิเสธและไม่ยอมไปปรากฏตัวที่ศาลตามที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหาเลยแม้แต่คดีเดียว

Advertisement

แต่เมื่อเขาหลุดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีซึ่งเป็นตำแหน่งประมุขของประเทศและหัวหน้าฝ่ายบริหารและผู้บัญชาการทหารสูงสุดผู้มีอำนาจเต็มแล้ว ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงให้หลุดพ้นจากคดีความต่างๆ ร่วมร้อยคดีไปได้อย่างแน่นอน

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image