ครม.อนุมัติร่างกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้พ้นโทษคดีอุกฉกรรจ์

ครม.อนุมัติร่างกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้พ้นโทษคดีอุกฉกรรจ์

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันการกระทาความผิดซาของผู้กระทาความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความ รุนแรง พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เพื่อเป็นการป้องกันสังคมและลดอัตรา การกระทำความผิดซ้ำของผู้พ้นโทษผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เช่น การฆาตกรรม การข่มขืน การกระทำความผิดทางเพศกับเด็ก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมพบว่า ผู้กระทำผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อพ้นโทษแล้ว จะกระทำความผิดซ้ำในระยะเวลา 3 ปี มากกว่าร้อยละ 50 จึงมีความจำเป็นต้องยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้น

ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ ความรุนแรง ได้แก่ กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันการกระทาความผิดซ้ำกำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทพความผิดเฉพาะราย การเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ การคุม ขังภายหลังพ้นโทษ การคุมขังฉุกเฉิน และการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มี ประวัติเป็นผู้กระทำความผิดเหตุการณ์ที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งมีรายละเอียด อาทิ 1.กำหนดนิยาม ความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เช่น ความผิดฐาน วางเพลิงเผาทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี ความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ความผิดฐานทาร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับ อันตรายสาหัส เป็นต้น และผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง หมายความว่า ผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรงที่มีอายุตังแต่ 18 ปีขึ้นไป

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า 2.กำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันการกระทาความผิดซ้ำโดยมีนายกฯ เป็นประธาน และอธิบดีกรมคุมประพฤติเป็นกรรมการและเลขานุการ ซึ่งมีอานาจหน้าที่ กาหนดนโยบายและทิศทางในการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิด อุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง และกาหนดมาตรฐานการดำเนินงานต่างๆ ของพนักงานคุม ประพฤติ 3.มาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเฉพาะราย คือ เมื่อศาลพิพากษาลงโทษ จำเลย ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง ให้ศาลมีอานาจออกคำสั่งให้ ใช้มาตรการฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเฉพาะรายก็ได้ 4.การเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ (supervision order) โดยก่อนที่กรมราชทัณฑ์ จะปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้กระทพความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง ให้กรม คุมประพฤติจัดทำสำนวนการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษสาหรับนักโทษเด็ดขาด พร้อมทัง เสนอความเห็นว่าควรจะเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษหรือไม่ แล้วเสนอ พนักงานอัยการ ให้พนักงานอัยการยื่นคาร้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลสั่งให้มีการเฝ้าระวัง ภายหลังพ้นโทษ 5.การคุมขังฉุกเฉิน (emergency detention order) ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ถูกเฝ้า ระวังภายหลังพ้นโทษ แสดงพฤติการณ์ใกล้ที่จะกระทำความผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความ รุนแรง และไม่มีมาตรการอื่นใดที่ยับยังได้ ให้พนักงานคุมประพฤติหรือพนักงานของ หน่วยงานที่รับผิดชอบร้องขอต่อศาล เพื่อออกคำสั่งคุมขังฉุกเฉิน และ 6.การพิจารณาปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจพเลยที่มีประวัติเป็นผู้กระทำความผิด อุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง ให้ศาลพิจารณารายงาน การสืบเสาะและพินิจ รายงานผล การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดเฉพาะราย และสำนวนการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ ประกอบการพิจารณาด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image