‘ศบค.’ ยัน ไม่อนุญาต ปชช.รอซื้ออาหารหน้าร้านในห้างฯ ป้องกันแออัด

‘ศบค.’ ยันไม่อนุญาต ปชช.รอซื้ออาหารหน้าร้านในห้างฯ ยึดจำหน่ายเดลิเวอรี่ตามข้อกำหนด ป้องกันแออัด

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศปก.ศบค. แจ้งว่า จากกรณีข้อเสนอของผู้ประกอบการบางส่วน เรียกร้องให้ประชาชนสั่งซื้ออาหารภายในห้างสรรพสินค้าได้ที่หน้าร้านและนำกลับไปรับประทานที่บ้าน ว่า เบื้องต้นไม่สามารถอนุญาตได้ เนื่องจากทีมแพทย์เน้นย้ำว่าไม่อยากให้คนมารวมตัวกันหน้าร้าน หากอนุญาต ให้ซื้อกลับบ้านก็จะมีประชาชนมารวมกลุ่มกันจำนวนมาก และร้านอาหารบางแห่งต้องใช้เวลารอคิวนานและแออัด ทั้งนี้ไรเดอร์ที่มารอรับอาหาร ทางศบค.อนุญาตให้รอที่จุดอื่น เช่น โถงภายในห้าง ลานจอดรถ โดยทางห้างสรรพสินค้าเป็นผู้จัดพื้นที่ ไม่ได้มารอกระจุกตัวบริเวณหน้าร้าน ขณะที่ร้านอาหารภายนอกห้างสรรพสินค้าสามารถมารอหน้าร้าน เพื่อซื้อกลับบ้านได้ ทั้งนี้ในที่ประชุมศปก.ศบค.ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะพิจารณาหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม และออกเป็นมติเพื่อให้ทางจังหวัดออกแนวปฏิบัติได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ เนื่องจากหลักการปฏิบัติจะสอดคล้องกับข้อกำหนดในประกาศอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่ กรรมการ กสทช. ระบุว่า คนออกคำสั่งข้อกำหนด ฉบับที่ 29 อาจจะไม่รู้เรื่องทางเทคนิค เพราะที่อยู่ไอพี (IP address) เปลี่ยนแปลงตลอด และไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดเลย นั้น เป็นสิ่งที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เสนอมา ก็ให้ปฏิบัติตามนั้นไปก่อน ทำไปตามที่กฎหมายให้การรองรับ การป้องกันหวังผลให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นการจำกัดเสรีภาพมากยิ่งขึ้น จึงไม่กล้าออกมาตรการที่เด็ดขนาดมากเกินไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนข้อกังวลถึงปริมาณยาฟาวิพิราเวียร์ ที่อาจมีไม่เพียงพอต่อการรักษา จะพิจารณาอนุญาตให้ให้โรงงานผลิตยาเอกชน ร่วมผลิตหรือไม่นั้น กระทรวงสธ. คาดการณ์ว่ายาฟาวิพิราเวียร์ ไม่ขาด และในเดือนสิงหาคมนี้ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะสามารถผลิตยาได้ ประมาณเดือนละ 2-3 ล้านเม็ด และได้สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่เดือนตุลาคม จะขยายกำลังการผลิตถึงเดือนละ 30 ล้านเม็ด จึงคาดการณ์ว่าน่าจะมีปริมาณยาที่เพียงพอ แต่อาจมีปัญหาการวางระดับกระจายโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนามหรือแต่ละจุด ซึ่งกำลังปรับกันอยู่คาดว่าเร็วๆ นี้จะดีขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image