ภูมิธรรมแจงยิบโต้ข้อหาสมคบคิด ลั่นไม่ยุติธรรมถูกกล่าวหา ยอมศิโรราบประยุทธ์

ภูมิธรรมติง กมธ.เสียงข้างน้อยไม่ควรเคลื่อนไหวโจมตีคนเห็นต่างราวกับผิดรุนแรง ชี้เป็นการตัดสินใจ กมธ.ทั้งคณะ ตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่วิกฤต

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีปัญหาพรรคก้าวไกลที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การโหวตนำงบที่ตัดได้ไปโปะกับงบกลาง เปรียบเป็นการตีเช็คเปล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยระบุว่า

1.เพื่อไทยคิดถึงผลประโยชน์ของประชาชน ด้วยความรอบคอบและสุจริต และระมัดระวังมิให้เป็นผลร้ายต่อการร่วมมือกันของฝ่าย ปชต.และเพื่อรักษาประโยชน์ร่วมของประชาชน

ในสถานการณ์ขณะนี้จึงต้องใช้ความระวังอย่างยิ่งยวดไม่กล่าวหา และไม่ทำลายมิตร ทางการเมืองที่จะร่วมกันแก้ปัญหา และวิกฤตประเทศต่อไป

2.ทำไมนำงบกลางไปให้ประยุทธ์ใช้

Advertisement

เพื่อไทยคิดและตัดสินใจ โดยถือ ”วิกฤตโควิด”…ที่ส่งผลกระทบรุนแรงกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และร่างงบประมาณฉบับนี้ทำมาบกพร่อง ไม่ได้เตรียมรับวิกฤต…ทางออกที่สภาจะช่วยได้ตามวิธีทำงบฯคือ นำไปไว้ที่งบฯกลาง และกำกับด้วยมติ…ใช้ได้เฉพาะโควิด

3.การตัดสินใจนี้เป็นตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่วิกฤต แม้นเพื่อไทยจะไม่ยอมรับและปฏิเสธตัวนายกฯ ในภาวะผู้นำ แต่การตัดสินใจนี้อยู่บนฐานคิด…ระบบการจัดทำงบฯของ ปท.เพื่อให้การแก้ปัญหาวิกฤต และความเดือดร้อนของประชาชนได้รับการแก้ไขเยียวยา…มิใช่บนความชอบหรือไม่ชอบตัวนายกรัฐมนตรี

4.เราเชื่อโดยสุจริตว่า การเอางบฯไว้ในงบกลางจะปลอดภัยจากปัญหาการถูกกล่าวหาว่ามีการแปรญัตติ เพื่อทำให้ ส.ส.หรือ กมธ.มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง หรือโดยอ้อมในการจัดทำงบฯ…ตามข้อวิตกกังวลของหลายฝ่าย และตามที่สำนักงบฯชี้แจง ซึ่งเกรงจะเป็นความผิดทางอาญาและเป็นเหตุให้พ้นจาก ส.ส

Advertisement

5.ข้อเสนอ…การนำงบฯปรับลดไปใช้อะไรย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กมธ.ทั้งคณะ…ซึ่งเมื่อ กมธ.ข้างมากไม่เห็นด้วยเพราะเห็นต่างจึงไม่ควรเคลื่อนไหวโจมตีผู้เห็นต่างราวกับมีความผิดรุนแรง
แม้นเสียงข้างน้อยจะยืนยัน ก็สามารถเปิดเวทีเสนอให้สาธารณชนรับรู้ได้ แต่มิใช่ทำให้ผู้อื่นเป็นจำเลย

6.การจัดงบกลางไม่เกี่ยวกับเรื่องการยอมรับในตัวนายกฯและ รบ. และยืนยันว่าไม่ใช่เรื่อง “ฮั้ว…หาประโยชน์ทางการเมือง” เรายืนยันว่า “นรม.” ไร้ประสิทธิภาพไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ และยืนยันจะอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป การทำให้ระแวง…เป็นเรื่องไม่เหมาะสม และเชื่อว่าการตรวจสอบยังคงเข้มแข็ง

7.คำกล่าวหาที่ว่า…สภาผู้แทนฯ มีการสมคบกัน เอางบฯกลางไปให้นายกรัฐมนตรีใช้ซื้ออาวุธ เพื่อนำมาทำร้ายประชาชน…ดูจะเป็นคำกล่าวที่เกินเลยจากความเป็นจริงไปมาก … งบที่จัดสรรครั้งนี้เพื่อการกู้วิกฤตและเยียวยาความเดือดร้อนประชาชน และเราจะทำการตรวจสอบการใช้จ่ายอย่างเข้มข้นต่อไป

8.การกล่าวหาว่าการนำงบกลางไปเพื่อการรื้อฟื้นงบ ส.ส.เพื่อให้เกิดการวิ่งเต้นเหมือนในอดีต เพื่อให้ ส.ส.…ไปขอหรือยอมศิโรราบกับนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการสรุปและกล่าวหาเพื่อน ส.ส.ท่านอื่นอย่างไม่ยุติธรรม และไม่สมควรยิ่ง

9.ข้อวิจารณ์ที่ว่าการทำงานของ กมธ.ครั้งนี้ไม่ให้ความสำคัญกับท้องถิ่น…ก็ไม่มีมูลความจริง เพราะที่ผ่านมาเราดูแลกระบวนการงบประมาณให้ท้องถิ่นอย่างเต็มความสามารถในทุกครั้ง ทุกช่องทางที่มีโอกาสเสมอมา เพราะเราทราบดีว่า “ท้องถิ่น”  คือรากฐานสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

10.ที่สำคัญคืองบประมาณหน่วยงานต่างๆ ที่จัดทำครั้งนี้มิได้มีแผนงานหรือรายการงบฯรองรับเพื่อจะนำไปใช้แก้วิกฤตโควิดเลย การนำงบฯไปใส่ไว้ในงบกลาง จึงเป็นทางออก และในทางปฏิบัติ หน่วยงานเหล่านั้นยังสามารถขอใช้งบกลางนี้ได้ เพียงแค่ต้องอยู่ในกรอบการช่วยเหลือประชาชนเรื่องโควิด

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image