‘เพนกวิน’ แสดงตัวหน้า ตร. นัดคาร์ม็อบ 10 สิงหา แยกราชประสงค์ ฝากภารกิจไล่ประยุทธ์ไว้ในมือ ปชช.
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลาประมาณ 12.50 น. ประชาชนกลุ่มหนึ่งเดินทางมารอให้กำลังใจนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ซึ่งประกาศว่าจะเดินทางมาแสดงตัวพร้อมทนายความในวันนี้ เวลา 13.00 น. จากกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีจากการทำกิจกรรมเซฟไผ่ ดาวดิน ทีมทะลุฟ้า และประชาชนที่หน้า ตชด. เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา
บรรยากาศทั่วไปในเวลา 13.00 น. นายพริษฐ์ยังเดินทางมาไม่ถึง ตำรวจยืนตั้งแถวหน้าประตูอย่างแน่นหนา การจราจรยังคงสัญจรได้ตามปกติ
เวลา 13.10 น. ประชาชนชายรายหนึ่ง ตะโกนจากเกาะกลางถนน ระบุว่า ทุกวันนี้มีอะไรก็ยัดข้อหาให้ประชาชน บอกว่าข่มขืนใจเจ้าหน้าที่ ทุกวันนี้ไม่สามารถใส่เสื้อที่มีข้อความว่า “เรารักตำรวจ” ได้อีกต่อไป สังคมต้องก้าวหน้า ไม่ใช่ถอยหลัง แต่กลับมีผู้จะพาไปสู่วังวนความมืดมิด ในอดีต ตนเคยไปแจกข้าวให้ตำรวจที่ลงพื้นที่ ปัจจุบันนี้ไม่มีความคิดนั้นอีกแล้ว ประชาชนรายอื่นๆ ปรบมือเชียร์
เวลา 13.13 น. นายพริษฐ์เดินทางมาถึง สื่อรุมล้อมถ่ายภาพ ตำรวจประกาศขอให้ประชาชนอย่ากรูเข้ามา โดยจะเข้ามาได้เฉพาะผู้เกี่ยวข้อง
นายพริษฐ์กล่าวหน้าประตูรั้ว ตร. ว่านี่คือแนวทางของคนตัวเล็กอย่างเรา สันติวิธี สำคัญที่สุดคือความกล้าหาญ กล้ายอมรับว่าเราตัวเล็ก การจะล้มยักษ์ต้องกล้ายืนหยัดต่อหน้าคนมีอำนาจ วันนี้ตนใช้ความกล้าหาญมาเผชิญหน้าความอยุติธรรม ขอยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด เราเรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิ เสรีภาพ ประชาชนเรียกร้องทางออก แต่เจ้าหน้าที่ซึ่งรับคำสั่งนายมีอำนาจมากกว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนรักษาแรงไว้
จากนั้น นายพริษฐ์กล่าวถึงการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ว่าขอให้ประชาชนมารวมตัวกันที่แยกราชประสงค์โดยจัดเป็นรูปแบบคาร์ม็อบ ขอให้เป็นคาร์ม็อบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยจัดมา
“เราจะตั้งหัวแถวที่แยกราชประสงค์ ประชาชนที่มี 2 มือ ไม่มีอำนาจ เงิน อาวุธ จะใช้รถในการสู้ ถอนราก โคน ผู้กัดกินเมืองไทยอย่างยาวนาน เราเชื่อในพลังประชาชน ขอฝากฝังการต่อสู้ไว้ในมือราษฎรทุกท่าน ขอให้ทุกคนยึดมั่นหลักการสันติวิธี อาจมีคนตั้งคำถามว่า สันติวิธีจะพาชัยชนะมาให้หรือไม่ ต้องตอบว่า การล้มทรราชไม่มีสูตรสำเร็จ แต่เท่าที่เห็น การใช้ความรุนแรงแต่ละครั้งของตำรวจ แม้ไม่อาจสะกิดใจนาย แต่สะกิดใจลูกน้องหลายคน หลังการสลายชุมนุม 1 สิงหาคม และ 7 สิงหาคม ตำรวจหลายคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ทั้งที่ยังอยู่ในราชการ นี่คือคนที่กล้าหาญ” นายพริษฐ์กล่าว
นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า ถ้าเน้นการใช้กำลัง จะตกเป็นเหยื่อรัฐ เพราะรัฐมีอำนาจมากกว่า จึงต้องใจเย็น ยืนหยัดตั้งมั่น ใช้สติสู้ เพื่อส่งพลังถึงคนที่ยังไม่ตื่น เชื่อว่าเมื่อยืนระยะไปเช่นนี้ ตำรวจจะกล้าออกมาบอกนายมากขึ้น เชื่อว่าไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่แม้กระทั่งทหารจะลุกขึ้นมา ในการต่อสู้ครั้งนี้ทุกคนมีความสำคัญ ถ้าประชาชนลุกขึ้นสู้ จะเกิดพลังส่งถึงทุกคนในสังคม การล้มประยุทธ์มีหลายอย่าง แต่ทุกอย่างเริ่มที่ประชาชน
“ผมเองเป็นเพียงนักศึกษา มี 2 มือ แต่ที่ยังยืนหยัดสู้ได้ เพราะพ่อแม่พี่น้องยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน การต่อสู้ครั้งนี้จะมีหรือไม่มีผมก็ได้ แต่ไม่มีประชาชนไม่ได้ ขอฝากภารกิจไล่ประยุทธ์ไว้ในมือของทุกคน อย่าหยุดสู้ จนกว่าประยุทธ์จะออก จนกว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตย จนกว่าประเทศจะเป็นของประชาชน จนกว่าทุกคนในประเทศในทุกชนชั้นเท่าเทียมกันในทุกด้าน อย่าหยุดจนกว่าจะถึงวันนั้น ถ้าโชคดี 10 สิงหาคม เจอกัน ถ้าโชคไม่ดี เจอกันปลายทาง” นายพริษฐ์กล่าว จากนั้น ชู 3 นิ้ว ตะโกนว่าศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ แล้วกล่าวว่า “ผมก็รักพ่อแม่พี่น้อง”
ต่อมา เวลา 13.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้ประชาชนรอข้างนอก และยืนยันว่าตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
จากนั้น นายพริษฐ์พร้อมทนายความเข้าไปในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อมา นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท นำขบวนคาร์ม็อบสลิ่มกลับใจจากย่านทองหล่อเดินทางมาถึงหน้า ตร. ประชาชนชู 3 นิ้วรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้แสดงหมายจับและควบคุมตัวนายพริษฐ์เข้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย จากนั้นคาดว่าจะควบคุมตัวนายพริษฐ์พร้อมพวกไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่สถานีตำรวจภูธรคลองห้าอีกครั้ง โดยช่วงเวลาก่อนหน้านี้ คือเมื่อเวลาราว 12.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองห้า จังหวัดปทุมธานี แสดงหมายจับศาลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เข้าควบคุมตัวนายณัชนนท์ ไพโรจน์ แกนนำแนวร่วมกลุ่มราษฎร ระหว่างเดินทางมาแสดงเจตจำนงความบริสุทธิ์ ที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีถูกออกหมายจับร่วมกับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน คดีนำมวลชนทำกิจกรรมสาดสีที่หน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ปทุมธานี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มมวลชนหมู่บ้านทะลุฟ้า ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยผู้กระทำผิดเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น / ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน / ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงการแพร่โรคในพื้นที่ที่ประกาศ หรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือแพร่ระบาดออกไป / ร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดปทุมธานี เรื่องมาตรการป้องกันและการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และร่วมกันทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
