“เอนก” ชี้ “ล็อกดาวน์” ได้ผล เผยแนวโน้มตัวเลขผู้หายป่วยกลับบ้านเริ่มมากกว่าผู้ป่วยรายใหม่

“เอนก” ชี้ “ล็อกดาวน์” ได้ผล เผยแนวโน้มตัวเลขผู้หายป่วยกลับบ้านเริ่มมากกว่าผู้ป่วยรายใหม่ ส่งสัญญาณมีเตียงเพียงพอ ลดความกดดันบุคลากรทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะลดระดับลงบ้างในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับเกือบ 2 หมื่นรายต่อวัน สังเกตจากกราฟซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงวันที่ 10 ส.ค. จะเห็นว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิน 2 หมื่นรายต่อวันเป็นครั้งแรกในวันที่ 4 ส.ค. ส่วนจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านได้นั้น ในตอนแรกมีจำนวนไม่มาก ซึ่งสังเกตได้จากกราฟจำนวนผู้ป่วยรายใหม่กับจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้าน ในวันที่ 26 ก.ค.นั้น ผู้ติดเชื้อรายใหม่มีมากกว่าผู้หายป่วยกลับบ้านถึง 8,494 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กับผู้หายป่วยกลับบ้านเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากมาตรการล็อคดาวน์ การฉีดวัคซีน และประชาชนเริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ในขณะนั้น โดย ศบค. ประกาศคำสั่งล็อคดาวน์ในวันที่ 12 ก.ค. ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัด ซึ่งขณะนั้นมีจำนวนผู้ป่วยสะสม 316,264 ราย และประกาศอีกครั้งในวันที่ 20 ก.ค. เพิ่มอีก 3 จังหวัด โดยมีจำนวนผู้ป่วยสะสมในขณะนั้น จำนวน 397,712 ราย

รมว.อว. กล่าวต่อว่า หากถามว่าเราได้อะไรจากการล็อคดาวน์ กราฟแสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่แม้ยังไม่ลดแต่ก็เพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป สิ่งที่เห็นต่อมาคือจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านเริ่มเพิ่มขึ้นจนเกือบจะใกล้เคียงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในวันที่ 3 ส.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านแค่ 311 ราย ต่อมาในวันที่ 6 ส.ค. เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 793 ราย ในวันนี้เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 3 พันราย (2,963 ราย)

“เหตุการณ์นี้บอกอะไรเรา น่าจะบอกว่ามาตรการล็อคดาวน์นั้นได้ผล อาจจะช้าหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องปกติเนื่องจากต้องการหลายปัจจัยที่จะทำให้การล็อคดาวน์นั้นมีประสิทธิผล โดยเฉพาะความร่วมมือจากประชาชนทุกคน นอกจากนี้ เป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีเตียงสำหรับผู้ป่วยมากขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งช่วยลดความกดดันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ ดูจากจำนวนผู้ป่วยสะสมในขณะนี้ จำนวน 767,088 ราย แต่ผู้หายป่วยกลับบ้านก็มีมากถึง 550,714 ราย เหลือผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จำนวน 211,233 ราย หากเราควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ให้สูงนัก และเพิ่มจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านได้มากขึ้น รวมทั้งระดมฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ประเทศไทยจะกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ความร่วมมือร่วมใจกัน ความสามัคคี การช่วยเหลือกัน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราก้าวข้ามผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยกัน”ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image