‘โจ้ ยุทธพงศ์’ ซัด ศธ.ตั้งงบประมาณซ้ำซ้อน แฉส่งเรื่องให้ ผอ.สำนักงบฯ สอบเข้าข่ายฮั้วหรือไม่

‘โจ้ ยุทธพงศ์’ ซัด ศธ.ตั้งงบประมาณซ้ำซ้อน แฉส่งเรื่องให้ ผอ.สำนักงบฯ สอบเข้าข่ายฮั้วหรือไม่ ลั่น ถ้า สกสค.ไม่ดำเนินการ ‘ธนพร’ จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

จากนั้นเวลา 21.40 น. วันที่ 20 สิงหาคม หลังจากผ่านมาตรา 23 กระทรวงวัฒนธรรม เข้าสู่การพิจารณางบประมาณมาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ งบประมาณ 117,927,639,500 ล้านบาท โดย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายเสนอปรับลดงบประมาณกระทรวงศึกษาตอนหนึ่งว่า ตนมีคำแปรญัตติขอปรับลดลงร้อยละ 10 โดยมีหน่วยงานสำคัญอยู่หน่วยงานหนึ่ง คือ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในปี 65 ได้ตั้งงบประมาณเอาไว้ 1.4 หมื่นบาท ในชั้น กมธ.ปรับลดไป 280 ล้านบาท ซึ่งตนไม่เห็นด้วยที่จะปรับลดลงไปแค่ 280 ล้านบาท โดยมีเหตุผลคือ มีการตั้งงบประมาณที่มีความซ้ำซ้อนกัน จากงบประมาณที่เคยได้รับในปี 64 แต่เมื่อถึงปี 65 ก็ได้ตั้งงบประมาณรายการเดียวกันทั้งที่เป็นรายการงบประมาณที่เคยได้รับแล้ว โดยงบประมาณดังกล่าวเป็นงบประมาณ 64 เลขาธิการสำนักงานอาชีวะศึกษาได้ทำรายการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ 64 จำนวน 68 ล้านบาทจากโครงการปฏิรูปการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนอาชีวะศึกษาที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นรายการที่อยู่ในงบประมาณ 64 เปลี่ยนมาเป็นค่าใช้จ่ายโครงการปรับปรุงระบบสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและพัฒนาอาชีพห้องเรียนอัจฉริยะ 77 จังหวัดของ สอศ. งบประมาณทั้งสิ้น 68 ล้านบาท แต่เมื่อเปลี่ยนแปลงงบประมาณแทนที่จะใช้วิธีการ e-bidding กลับนำไปกระจายให้กับวิทยาลัยต่างๆ 136 วิทยาลัย วิทยาลัยละไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งเรื่องดังกล่าว ตนได้ส่งเรื่องให้ ผอ.สำนักงบประมาณได้ตรวจสอบว่าเป็นการแบ่งซื้อแบ่งจ้างและเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ได้ยื่นเรื่องไปให้ กมธ.ตรวจสอบติดตามงบประมาณของสภา

นายยุทธพงศ์อภิปรายต่อว่า ในงบปี 65 ในรายการที่ 67 ก็ได้มีชื่อโครงการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพระบบสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาและพัฒนาอาชีพ พร้อมระบบห้องเรียนอัจฉริยะ 77 จังหวัดของ อชศ. 61 กว่าล้านบาทซึ่งในปี 64 ก็ได้รับการจัดสรรไปแล้ว ที่ตนไม่ถามในห้อง กมธ. เนื่องจากประธาน กมธ.ที่ทำหน้าที่ในขณะนั้นได้ให้กระทรวงศึกษาประชุมผ่านออนไลน์ และตนถามผ่านออนไลน์ไปแล้วแต่ไม่ได้รับคำตอบ รวมถึงได้ถามไปในห้องอนุ กมธ.ศึกษาฯ ด้วย วันนี้จึงขอให้ประธานอนุ กมธ.ศึกษาฯ ตอบคำถามของตนที่ได้สอบถามไป เรื่องต่อมาคือคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ซึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาตนได้เป็นคนอภิปรายนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรณีที่ได้แต่งตั้งนายธนพร สมศรี มาเป็นเลขาธิการ สกสค. โดยตนได้อภิปรายว่านายธนพรขาดคุณสมบัติ เพราะไม่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ทางด้านการศึกษา ซึ่งตั้งแต่ที่ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจอยากจะสอบถามว่า สกสค. ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรและให้นายธนพรอยู่ในตำแหน่งต่อ ซึ่งหาก สกสค.ไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะเข้าไปสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image