เปิดตัวกลุ่ม ‘ทะลุแก๊ซ’ ความในใจวัยรุ่นม็อบดินแดง ลั่นยึดหลัก ‘สันติวิธี (เชิงตอบโต้)’

เปิดตัวกลุ่ม ‘ทะลุแก๊ซ’ ความในใจวัยรุ่นม็อบดินแดง ลั่นยึดหลัก ‘สันติวิธี (เชิงตอบโต้)’

สืบเนื่องการปะทะที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แยกดินแดง และแยกประชาสงเคราะห์ กรุงเทพฯ ระหว่างกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบกลุ่ม ที่มาพร้อมรถจักรยานยนต์ พลุและประทัด กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) พร้อมกำลังอาวุธ และรถกระบะ ซึ่งเกิดนับตั้งแต่ช่วงเวลาหัวค่ำไปจนถึงประมาณ 21.00 น. ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมนั้น

เมื่อเวลา 09.43 น. วันที่ 20 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดตัวกลุ่มวัยรุ่นดินแดงอย่างไม่เป็นทางการ ในนาม “ทะลุแก๊ซ – Thalugaz” ด้วยการเปิดเพจเฟซบุ๊ก ก่อนโพสต์ภาพอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝ่าแนวเจ้าหน้าที่ คฝ.ไปประท้วงที่บ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนถนนวิภาวดีรังสิต (ฝั่งขาออก) ได้แก่ กองพลุ ประทัด และหนังสติ๊กที่มีแมวนั่งทับอยู่

จากนั้นตั้งภาพโปรไฟล์แฟนเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม “ทะลุแก๊ซ” ซึ่งมีลายเส้นสัญลักษณ์คล้ายกับกลุ่ม “ทะลุฟ้า” ที่ยึดแนวทางสันติวิธี แต่เคารพแนวทางการต่อสู้ที่แตกต่าง

กลุ่ม “ทะลุแก๊ซ” โพสต์ข้อความแรกว่า “พวกเราขอใช้ช่องทางนี้ในการติดต่อสื่อสารนะครับ”

Advertisement

มีการการแชร์โพสต์ที่อธิบายความรู้สึกของกลุ่ม และแนวทางการต่อสู้จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ความว่า

“อย่าไปว่าน้องๆ ว่าวัยรุ่นมันเลย
เอาจริงๆ ทุกคนก็สบายใจดีนิ เวลาไปม็อบแล้วมีน้องๆ วัยรุ่นเหล่านี้เป็นกองหน้า คอยเป็นกันชนให้เมื่อต้องเผชิญกับเหล่าหุ่นยนต์ ที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมตามคำสั่งนายได้ทุกเมื่อ

ทุกคนต่างไปม็อบด้วยความโกรธและความคับแค้นในใจกันทั้งนั้น จะให้ไปยืนใจเย็นๆ ยุบหนอ พองหนอก็คงย้อนแย้งสิ้นดี ในเมื่อภายในใจมันร้อนระอุไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากมาย จนทำให้เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างคำว่าเหตุผลกับสัญชาตญาณความเป็นคนนั้น อาจจะเลือนรางไปบ้าง แต่มันก็คือหยินและหยาง ที่อนิจจังสำหรับโลกใบนี้ ทุกปัจเจกไม่จำเป็นต้องมีจิตใจที่สันติและอหิงสาเหมือนดั่งคานธีเสมอไป เพราะความสันติอหิงสาที่เป็นผลผลิตทางสังคมและปรัชญานั้น ย่อมมีความ bias อยู่ในตัวมันเอง

Advertisement

นี่ดูไลฟ์ม็อบตั้งแต่ต้นจนจบตลอดและสังเกตว่า มันก็เป็นอย่างกราฟฟิตี้บนเสาตอม่อนี้จริงๆ “ไม่มี ตร.ไม่มีความรุนแรง”

กอปรกับประสบการณ์ส่วนตัว นี่มองว่าวัยรุ่นอารมณ์ร้อนเหล่านี้ กลับมีความรับผิดชอบในเรื่อง vandalism มากกว่าในประเทศโลกที่ 1 เสียอีก

ผมไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่าจะมีการทำลายทรัพย์สินชาวบ้านแบบฟรีๆ เพราะคึกคะนองหรืออะไรก็แล้วแต่ (อย่างที่มีในยุโรป) แต่พวกเขากลับพุ่งเป้าหมายไปที่รัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเชิงสัญลักษณ์หรือตัวบุคคล

ไม่เคยเห็นว่าม็อบครั้งไหนจะบานปลาย หรือมีเหตุรุนแรงถึงขั้นต้องมีการปราบปราม … จนกระทั้งเจ้าหน้าที่เริ่มใช้ความรุนแรงกระชับพื้นที่ ยั่วยุให้มีการโต้ตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มทะลุแก๊ซ ได้แสดงความเห็นต่อโพสต์ดังกล่าวด้วยว่า “สู้ไปด้วยกันครับ เรียนรู้ไปพร้อมกัน” ไปจนถึงแชร์โพสต์ของ “กลุ่มทะลุฟ้า” ที่ยืนยันในหลักการต่อสู้ว่า

“พวกเรากลุ่มทะลุฟ้าขอยืนว่าพวกเรานั้นหนักแน่น
และยึดมั่นในความเป็นภราดรภาพทางสังคม
เพื่อเพิ่มแนวร่วมและเปิดกว้างด้านความคิดในเรื่อง
วิธีการเคลื่อนไหวที่ปัจจุบันมีความหลากหลายมาก
ดังนั้นพวกเราจึงเคารพแนวทางของแต่ละกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวและต่อต้านระบอบประยุทธ์ในขณะนี้
และพวกเราก็เข้าใจในความเป็นมนุษย์ดีว่า มนุษย์ทุกคนล้วนมีความอดทนที่ไม่เท่ากัน พวกเราไม่อาจทราบได้ว่ามวลชนแต่ละกลุ่มที่ออกมาต่อต้านนั้นใครโดนระบอบประยุทธ์กดขี่หรือสร้างความเดือดร้อนกันมาแค่ไหนและมีความโกรธแค้นเพียงใด ดังนั้นถ้าหากว่าจะมีการแสดงออกในการต่อต้านหลายรูปแบบจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย เพราะระบอบประยุทธ์นั้นได้สร้างหายนะให้กับประชาชนทุกคนอย่างเสนอหน้า

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเรายังคงกังวลในเรื่องของความปลอดภัยและสุขภาพของพี่น้องมวลชนทุกๆ กลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว พวกเราทราบตลอดว่าในทุกๆ วันนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง พวกเราไม่ได้เมินเฉยๆ ต่อเหตุการณ์นั้นแต่อย่างใด สิ่งที่พวกเราเห็นคือเจ้าหน้าที่รัฐได้ตอบโต้ประชาชนด้วยความรุนแรงกว่าเหตุ นั่นคือสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับและปล่อยผ่านไปได้! เพราะทุกกลุ่มที่ออกมาต่อต้านนั้น คือกลุ่มคนที่มีความต้องการเหมือนพวกเรานั่นคือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ดังนั้น ทุกคนล้วนเป็นมิตรสหายของพวกเราทั้งสิ้น

ถึงจะทราบเช่นนั้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคนและความเป็นห่วงของพวกเรา พวกเราก็อยากจะขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านทุกคนนั้นได้ใช้วิธีการต่อต้านที่ ”ปลอดภัย” ต่อตนเองให้มากที่สุด เพราะในการต่อสู้ มวลชนทุกคนและกลุ่มทุกกลุ่มล้วนเป็นส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวในระดับประเทศครั้งนี้ ในอนาคตพวกเราทุกคนที่ออกมาสู้จะต้องเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์และอยู่เล่าประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังต่อไปในฐานะตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่!

และที่สำคัญไปมากกว่านั้น พวกเราได้ข้อสรุปจากม็อบของพวกเราเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 แล้วว่า No police, no violence (ไม่มีตำรวจ, ไม่มีความรุนแรง) ตำรวจ คฝ.ต่างหากที่เป็นตัวสร้างความรุนแรงที่แท้จริง ไม่ใช่กลุ่มมวลชนที่ออกมาต่อต้านตามที่สลิ่มได้กล่าวอ้าง ทุกกลุ่มนั้นมีขอบเขตที่ชัดเจนทุกครั้งในการชุมนุม แต่ตำรวจต่างหากที่คอยมาล้ำเส้นพวกเราเอง พวกเขาคุกคามและสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตพวกเราเอง ไม่ใช่ว่าพวกเราและพันธมิตรไปสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหน้าที่ก่อนไม่! ดังนั้น พวกเราจึงขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายม็อบทั้งหมดได้ใช้ก้อนเนื้อในหัวมีที่ทั้งหมดคิดดีดีว่าใครกันแน่ที่เป็นชนวนสร้างความรุนแรง”

โดย “กลุ่มทะลุแก๊ซ” ได้แสดงความเห็นต่อโพสต์ดังกล่าวว่า

“พวกเรายังขาดอุปกรณ์ป้องกัน รวมถึงน้ำเกลือจำนวนมาก หวังว่ามิตรสหายทุกท่านที่จะเข้าร่วมกับพวกเราจะคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกนะครับ

ใครมีอุปกรณ์ก็ขอให้เซฟตัวเองด้วยครับ ปกปิดใบหน้าเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปกันด้วยนะครับ No face, No case

ที่สำคัญที่สุดเลยคือเราต้องยืนยันในหลักการสันติวิธี (เชิงตอบโต้) ไม่ว่าจะสาดสี ไปยันพลุไฟ เราต้องเน้นนะครับว่าการต่อสู้ของพวกเราไม่ได้เน้นหวังเอาชีวิตใคร หรือต้องการทำร้ายใคร เราต้องการแค่เพียงแสดงให้เห็นว่า “กูไม่กลัวพวกมึง”

และสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกให้ทุกๆ คนที่ยังไม่เข้าใจพวกเรา ได้ทำความเข้าใจใหม่อีกครั้ง นั่นก็คือ “พวกเราไม่ได้เป็นฝ่ายจุดชนวนความรุนแรงหรือสร้างสถานการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา มีประชาชนที่สัญจรกลับบ้านถูกยิงด้วยกระสุนยางหลายราย รวมถึงการยิงกระสุนยางเข้าไปในแฟลตดินแดง ส่งผลให้ชาวแฟลตที่ยืนสังเกตการณ์ได้รับบาดเจ็บ และตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ คฝ.ว่าทำผิดหลักการ”

ทั้งนี้ กลุ่มทะลุแก๊ซ ยังมีการถอดบทเรียนการต่อสู้ของเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ความว่า

“สรุปวันนี้

ทีแรกก็งงๆ จบอย่างไว เจอต้อน เราเพิ่งไปถึง ก็อาศัยแฝงตัวเงียบๆ กับชาวแฟลต ถามความเห็น, ทางหนีทีไล่, ปั่นดราม่าไปเรื่อยๆ เพราะช่วงแรกสติแตกมาก และแน่นอน เด็กก็ไม่ได้มียุทธวิธีอะไร การเข้าตลบหลัง การจัดชุดแฝงรายงานต่างๆ ไม่มีหรอก มันเป็นทีมทะลวงอย่างเดียว พอแตกก็ถอย ทีแรกผมก็จะกลับนะ คฝ.ปิดทาง เช็ก มีเดินตาม คอยส่องตลอด และยิงง่ายมาก เด็กแฟลตเอาสติ๊กยิงจากข้างบนลงมา พวก (คฝ.) ยิงขึ้นไป 6 เม็ดได้ ปลอกกระสุนตกเกลื่อนถนน คำว่านับร้อยไม่เกินจริง ลูกแก๊สก็ยิงหลายสิบ แต่ที่เลวร้ายคือยิงใส่สื่อ และไทยมุงชาวบ้าน อันนี้ทำให้ความเกลียดชังมันเท จากที่เขาจะด่าเด็ก เขาก็เทไปด่าคนที่ยิงเขาแทน

พอเดินสักพัก เริ่มได้ยินคนบอกมีรวมแถวพระแม่ คิดว่าไม่จบว่ะ รอดูสักพักแล้วกัน คราวนี้มาใหญ่ คือรวมมาไงไม่รู้ หลักร้อยเหมือนเดิม ยังไม่ได้เล่น ค้างมา คราวนี้มาเต็ม เอาไข่มาแจก ลูกเล็กเด็กแดงเอาไปคนละ 4-5 เม็ด คราวนี้ยิงแลกกันเช่นเคย แต่สักพัก คฝ.ถอย เด็กมันก็อ่อนเชิง ได้ใจ วิ่งกันขึ้นหน้า ต้องให้วิ่งไปเตือน ซึ่งทีแรกก็ถอย แต่สักพักห้าว บุกตู้ เจอพวกดักรอบนด่วน ไล่ยิงกระเจิง สุดท้ายก็นะ ทนไม่ไหวต้องวิ่งมาปิดอยู่ดี

วันนี้ที่เห็นคือกลยุทธ์ทั้งสองฝ่ายเปลี่ยน ตำรวจไวขึ้น เริ่มคล่องตัว มีการใช้มอเตอร์ไซค์แล้ว เด็กก็ปรับตัว เริ่มดูนักข่าว ตามไลฟ์ เลยรวมตัวกันเร็ว

ปัญหาคือ ระเบียบนี่แหละ หน้างานก็ต้องคอยสอน ผู้ใหญ่ก็ต้องคอยสอน ผู้ใหญ่สอนดีนะ มีคนหนึ่งบอกว่า เอาตรงนี้เป็นสนามฝึก อย่าเอาเป็นสนามรบ มาเล่นให้รู้ แล้วสู้กับมันไป สู้กันไปเรื่อยๆ อย่าหยุด

จบโควิด ถ้ายังไม่ยิงกันตายเพราะเจอขอใบสั่งฆ่าไปก่อน เหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะไฟมันจุดติดไปแล้ว
คุณยิงหรือจับเด็ก 5 คน เมื่อลมสงบ จะมีเพื่อนมันอีกสิบคนออกมา ถ้าคุณรักความสบาย จงไปบอกให้นายคุณโอนอ่อน
ผมพูดถึงกรุงเทพจะไม่สงบอีกนาน คุณมามันมุด คุณหยุดก็แหย่
พวกสายเก่าดาวแดงปีลึก น่าจะชอบแนวนี้เป็นพิเศษ”

นอกจากนี้ ยังเล่าเรื่องกลางสมรภูมิดินแดง ว่า

เมื่อวานมีตลกอยู่หลายเคส มีเคสหนึ่งน้องแม่งกำลังถือแก๊ส ขว้างล่อลูกยางมันๆ
แม่น้องเอาผ้าขนหนูคุมหน้าเดินฝ่าควันมาดุ่ยๆ

ไอ้โต้ กลับบ้าน !
โห่ แม่ เดี๋ยวทุ่มนึงก็กลับแล้ว
มึงจะกลับดีๆมั้ย มาทุกวัน เดี๊ยะ /ง้างมือ
ไอ้โต้เดินตามแม่กลับต้อยๆ ท่ามกลางห่ากระสุน
ยางยังสาดลงมาจากทางด่วน

สู้กันใหม่ไอ้โต้ มึงกลับไปกินข้าวก่อน
*ความน่าเศร้าในความตลกคือ มันควรได้เล่น Free
Fire หรือ WarZ แทนที่จะต้องอยู่ใน warzone จริงๆ
ถ้าการเมืองดี*

#วัยรุ่นทะลุแก๊ซ
#มิตรสหายทะลุแก๊ซท่านหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image