แสดงละคร ฉุดกระชากผู้ต้องขัง กลางถนน ‘ทะลุฟ้า’ อ่าน 4 ข้อเรียกร้องวอนช่วย ‘นักสู้’
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรม “ยื่นหนังสือทะลุโลก เปิดโปงทรราชให้ต่างชาติได้รับรู้” ถึง สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบกระบวนการยุติธรรม และคัดค้านการจับกุมนักกิจกรรมทางการเมือง อย่าง ไม่ชอบธรรมตั้งแต่เวลา 14.00 น. นั้น
โดยเวลา 15.44 น. กลุ่มทะลุฟ้า ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ สะท้อนความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศว่า ผู้ที่ออกมาแสดงออกทางการเมือง ต้องถูกคุกคาม และถูกปฏิบัติต่อผู้เป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริงอย่างไม่เหมาะสมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
โดยนักกิจกรรม 3 ราย แต่งกายด้วยชุดผู้ต้องขัง ถูกชายสวมชุดลายพราง ฉุดกระชาก และต่อว่า ก่อนนักกิจกรรมทั้ง 3 คน จะกล่าวถ้อยคำคัดค้านการกระทำดังกล่าว
จากนั้น เวลา 15.47 น. มีการอ่านแถลงการณ์ เนื้อความเดียวกับหนังสือที่ได้ยื่นต่อ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ใจความกล่าวถึงความอิสระของผู้พิพากษาและตุลาการ ในการพิจารณาอรรถคดี ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่ต้องรวดเร็ว เป็นธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง แต่การทำงานช่วงที่ผ่านมา มีข้อสงสัยบางประการ เช่น การสลายการชุมนุม ที่ประชาชนได้รับกระทบแม้กระทั่งสื่อมวลชน แต่ไม่ได้รับความคุ้มครอง อย่างเช่นการชุมนุมของกลุ่ม ก.ป.ป.ส.
นอกจากนี้ ยังยกกฎหมายหลายข้อที่รัฐบาลไทยต้องยึดถือปฏิบัติ อาทิ ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิในข้อ 10 ที่ผู้ต้องหา จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
ตัวแทน “กลุ่มทะลุฟ้า” กล่าวว่า ตามหลักการสากล สิทธิในการประกันตัว ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ผู้ต้องหาต้องถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ สิทธิได้รับรองไว้ในกฏหมายระหว่างประเทศ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายของเรือนจำเอง ทำให้ผู้ต้องหาสูญเสียอิสรภาพเกินความจำเป็น ที่สำคัญ ผู้ต้องหายังต้องติดเชื้อโควิด-19 เช่น แซม สาแมท (ชายไรูสัญชาติ) ที่ติดโควิดในเรือนจำ ถึง 2 รอบ แม้จะยังไม่มีหลักฐานการเอาผิดเพียงพอในการฝากขังนักสู้
เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของสิทธิมนุษยชน อันเป็นหลักการที่จะทำให้โลกของเราอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข จึงมีข้อเรียกรอง ดังนี้
1.เนื่องจากองค์กรของท่าน ได้รับความวางใจ การรายงานประเด็นสิทธิมนุษยชน จากองค์กรของท่าน จะน่าเชื่อถือ และนำไปอ้างอิงได้ต่อไป จึงเรียกร้องให้ท่านตรวจสอบ ทบทวน นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางการเมือง ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
2.ทำหนังสือแสดงความกังวล เรื่องสิทธิมนุษยชน ไปยังรัฐบาลไทย เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลทำตามแนวทางสากลมากขึ้น
3. ข้อให้ท่าน ช่วยเหลือเพื่อนของเรา ที่เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่กลับถูกระทำอย่างนักโทษ ถูกกระทำอย่างกับได้รับการพิพากษาไปแล้ว เรายืนยัน ว่า สิ่งที่เราเรียกร้องคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุด
4.ท้ายนี้ เราหวังว่า ในข้อมูลรายงานทั้งหมด พวกเขาจะถูดจดจำในฐานะนักสู้ ไม่ใช่นักโทษ
ทะลุฟ้า
21 สิงหาคม 2564
จากนั้น มีการอ่านแถลงการณ์ เป็นภาษาอังกฤษ
เวลา 16.08 น. นายทรงพล หรือ ยาใจ กล่าวยุติกิจกรรม และขอให้ติดตามการทำกิจกรรมต่อไป ทางแฟนเพจ “ทะลุฟ้า” โดยนายวรัญชัย โชคชนะ อดีตนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้นำงู และตะเกียง มายื่นให้ในช่วงท้าย
