09.00 INDEX ข่าวลือ เพื่อไทย พลังประชารัฐ กับสีสัน อันโลดโผน โจนทะยาน
ไม่ว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ไม่ว่าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่ว่า ราง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ดำเนินไปเหมือนเป็น “ไฟส่องทาง” ชี้ให้เห็นทิศทางการเมืองแม้ว่าอาจจะสลับซับซ้อนแต่ก็เริ่มเห็นได้ชัด
เห็นได้ชัดถึงการเน้นน้ำหนักไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน้นน้ำหนักไปยังพรรคภูมิใจไทย ขณะที่พยายามกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกต่างหาก
เห็นได้ชัดถึงการแตะกัน “ใต้โต๊ะ” ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรค พลังประชารัฐ ไม่ว่าในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เน้นระบบ เลือกตั้งและย้อนกลับไปยังรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540
และการประนอมประโยชน์ด้วยการยก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้อยู่ในสถานะพิเศษ
เพียงแต่กระหน่ำไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยไม่ยั้ง
ความหมายก็คือแสดงไมตรีต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โหดเต็มพิกัดต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จึงไม่แปลกที่เริ่มมีเสียงนินทา กันอย่างหนาหูถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ที่จะมีการจับมือกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐในทางการเมือง
เริ่มมีการพูดถึง “ยุทธศาสตร์” ที่จะเกิด “รัฐบาลเฉพาะกาล” ขึ้น มาในอนาคตอันใกล้
บนเงื่อนไขที่จะต้องมีการตัดองค์ประกอบภายใน “3 ป.” ออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปจากวงจรแห่งอำนาจ เพื่อเริ่มมิติใหม่ในทางการเมือง
เริ่มมีการเน้นย้ำว่าไม่ว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ล้วนแต่แนบแน่น
เคยอยู่ใต้ร่มธง ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย มาแล้ว
บทสรุปหนึ่งในทางการเมืองคือบทสรุปที่ว่าสามารถก่อให้เกิดปรากฎการณ์ที่ “เป็นไปไม่ได้” จาก “ความเป็นไปได้” นี่คือกลยุทธ์ที่ เชื่อกันว่าอาจเกิดขึ้นมีขึ้น
หรืออย่างน้อยก็เป็น “หมากกล” ก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง
ท่ามกลางการเคลื่อนไหวบนท้องถนนไม่ว่าที่ดินแดง ไม่ว่าที่ถนนราชดำเนิน ประสานกับ “การดีล” บนเวทีรัฐสภา
กลายเป็นสีสันในทางการเมืองที่ค่อนข้างโลดโผนโจนทะยาน
