โฆษก รบ. เผย ‘บิ๊กตู่’ สั่งดูแล-เร่งฉีดวัคซีนให้พระ-ผู้เกี่ยวข้องทำพิธีศาสนา

โฆษก รบ. เผย ‘บิ๊กตู่’ สั่งดูแล-เร่งฉีดวัคซีนให้พระ-ผู้เกี่ยวข้องทำพิธีศาสนา ปลื้ม ยอดผู้ป่วยโควิดกลับบ้านแซงยอดติดเชื้อติดต่อกันร่วม 10 วัน

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยพระภิกษุสามเณรที่อาพาธจากโควิด-19 เพราะต้องออกบิณฑบาต ตลอดจนประกอบพิธีทางศาสนาต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ตนจึงได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจพระภิกษุสามเณรที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์ พร้อมทั้งช่วยดูแลการฉีดวัคซีนให้กับพระสงฆ์และผู้ที่เกี่ยวข้องในการทำพิธีทางศาสนาต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตทั่วประเทศด้วย ทั้งนี้ โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นหนึ่งในจุดฉีดวัคซีนให้กับพระสงฆ์ทั่วประเทศ โดยพระสงฆ์สามารถเข้ามารับวัคซีนได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนและ ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยโซล่าร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมกลุ่มเพื่อนธนกร ได้จัดซื้ออาหารจากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสามเณรที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์ โดยมีนายไพฑูรย์ ฤกษ์นิธี รองผู้อำนวยการด้านอำนวยการ โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นผู้รับมอบ

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยมีสัญญาณดีขึ้น และยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ ตัวเลขอยู่ที่สองหมื่นกว่ารายติดต่อกันเป็นเวลา 20 วันแล้ว ซึ่งจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านนั้นมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 10 วันด้วย ถือเป็นข่าวดีในช่วงเวลานี้อย่างมาก โดยสถิติสูงสุดของผู้ป่วยหายกลับบ้านคือ วันที่ 14 สิงหาคม 2564 อยู่ที่ 23,672 ราย ถือเป็นความสามารถและความร่วมแรงร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์และทีมงานด่านหน้าในการรักษาพยาบาล ขณะเดียวกันจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขจะยังสูงอยู่ เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มค่อยๆ ลดลง จึงน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี ว่าต่อจากนี้จะเห็นจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้

“วันนี้ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศที่หายกลับบ้านสะสม (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564) อยู่ที่ 896,195 คน ยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,092,006 คน ซึ่งยอดผู้ที่อยู่ระหว่างรักษาลดลงเหลืออยู่ที่ 186,934 คนแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนอดทน ยึดหลักปฏิบัติในการป้องกันอย่างเข้มงวดตามหลักสากล (Universal Prevention) และปฏิบัติตามมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันลดโอกาสการติดเชื้อเพิ่ม และถือเป็นการลดความกดดันต่อแพทย์ พยาบาล บุคลากรด่านหน้าอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลรับรู้ทุกปัญหา และมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกคน ท่านนายกฯ เร่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันคิดหามาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ช่วยเหลือ และแก้สถานการณ์เพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะก้าวไปสู่การฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจหลังโควิดให้เร็วที่สุด” นายธนกร กล่าว

Advertisement

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image