“จุรินทร์” ชี้ศบค.ผ่อนล็อกให้เปิดกิจการได้ เหตุรัฐแก้โควิด ควบคู่กู้เศรษฐกิจ ย้ำพณ.ปราบกักตุนสินค้า-ขายโก่งราคา
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ชุมชนพิพัฒน์ 2 เขตบางรัก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติให้ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างแก่สถานประกอบการให้สามารถเปิดให้บริการได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ว่า เป็นการผสมผสานระหว่างการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปด้วยกัน ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อผ่อนลมหายใจให้กับภาคธุรกิจและประชาชนที่อยู่ในสถานะที่สามารถป้องกันตัวเองได้ระดับหนึ่ง เช่น ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ผ่านการตรวจด้วยชุดแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) แล้วปรากฏผลเป็นลบ เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลพยายามเดินหน้าทั้ง 2 อย่างไปด้วยกัน ถือเป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้ว แต่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือในการไม่ปฏิบัติอะไรนอกเหนือกฎเกณฑ์กติกา ทั้งนี้ การปฏิบัติต่างๆ ในเรื่องความปลอดภัยและป้องกันโรคนั้น เป็นเรื่องที่ ศบค.ต้องซักซ้อมร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งได้พูดชัดเจนแล้วว่าภาคเอกชนต้องรวมกลุ่มกันแล้วมาพูดคุยกับ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขถึงเรื่องกฎเกณฑ์ กติกาต่างๆ รวมทั้งด้วยว่าจะเดินหน้าในรายละเอียดอย่างไรต่อไป
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับกระทรวงพาณิชย์จะดูแลไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนสินค้า หรือขึ้นราคาสินค้าจนกลายเป็นการค้ากำไรเกินควร ซึ่งตนได้สั่งการเป็นนโยบายชัดเจนแล้ว และที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีแล้วเมื่อพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย โดยการค้ากำไรเกินควรนั้นมีโทษสูง คือ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัดรับไปดำเนินการแล้ว และลงตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ถ้าประชาชนต้องการแจ้งข้อมูล สามารถแจ้งได้ที่โทรศัพท์สายด่วน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมรับเรื่องไปประสานงานต่อไป
