‘ประธาน กมธ.ศึกษางบฯ 65 ส.ว.’ แนะ จัดงบลดเหลื่อมล้ำ ชะลอ-เลื่อนส่วนไม่สำคัญออก ลดภาระกู้

‘ประธาน กมธ.ศึกษางบฯ 65 ส.ว.’ แนะ ควรจัดงบลดความเหลื่อมล้ำ ชะลอหรือเลื่อนส่วนไม่สำคัญออกไป เพื่อลดภาระการกู้ หากต้องกู้อีกในอนาคต

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว

นายวิสุทธิ์​ ศรีสุพรรณ ส.ว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วุฒิสภา รายงานข้อสังเกตของการศึกษาต่อที่ประชุมว่า หลังสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ประเทศไทยยังมีโอกาสและความท้าทาย เหมือนฟ้าหลังฝน อย่างไรก็ตาม วุฒิสภามีข้อเสนอคือการจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นมีบางเกณฑ์ไม่สะท้อนถึงการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะจัดสรรงบประมาณตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยพื้นที่เติบโตเศรษฐกิจมากจัดสรรให้มาก ทั้งที่ควรจัดสรรให้พื้นที่เติบโตเศรษฐกิจน้อยให้มาก

นายวิสุทธิ์กล่าว นอกจากนั้นรัฐบาลต้องทบทวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมต่อการตรวจสอบ ถ่วงดุล และควบคุมการใช้งบประมาณ ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณในปี 2566 ที่ลดลง ดังนั้น รัฐบาลควรสั่งการหน่วยงานให้จัดลำดับความสำคัญ และคัดเลือกโครงการที่มีความสำคัญ ส่วนที่ไม่สำคัญให้ชะลอ หรือเลื่อนออกไป และให้นำงบส่วนดังกล่าวจัดสรรสมทบที่งบกลางเพื่อลดภาระของการกู้เงิน หากรัฐบาลต้องกู้เงินอีกในอนาคต

นายวิสุทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นงบลงทุนของปี 2565 ที่มี 6 แสนล้านบาท หรือ 20.1% ถือว่าอยู่ระดับต่ำ รัฐบาลต้องเร่งจัดลำดับความสำคัญโครงการที่สำคัญและเร่งดำเนินการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน นอกจากนั้นต้องนำเงินอนาคตมาใช้ หมายถึงรายได้จากรัฐวิสาหกิจ ไฟฟ้า ประปา การทางพิเศษ โดยการออกพันธบัตร (บอนด์) เพื่อลดภาระเงินกู้ ทั้งนี้ การคาดการณ์รายได้ของรัฐวิสาหกิจจะต่ำลง ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องอุดหนุน ปี 2565 มีจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท

Advertisement

“ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการคือการดูแลสมดุลฐานะการคลังและสภาพคล่องของรัฐวิสาหกิจ โดยขอให้ใช้วิกฤตโควิด-19 เป็นโอกาส พิจารณาความเหมาะสมว่าบางรัฐวิสาหกิจจะให้เอกชนทำต่อไปหรือไม่ และต้องเร่งรัดดูรัฐวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรื่องสภาพคล่อง” นายวิสุทธิ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image