ครป.จี้ ‘บิ๊กตู่-วิษณุ’ เปิดบัญชีทรัพย์สิน วอนพรรคร่วมรบ.โหวตเปลี่ยนประเทศ ชี้บทพระเอกมาถึงแล้ว
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และแกนนำไทยไม่ทน กล่าวในการแถลงข่าวข้อเรียกร้องต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า พวกตนขอให้พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม แสดงความจริงใจเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินด้วยตนเองระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมแสดงความบริสุทธ์ใจให้ ป.ป.ช.เปิดเผยได้ไม่มีการฟ้องร้องภายหลัง
“ความคาดหวังของประชาชนในการอภิปรายไม่ไว้วางในนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้คือ ประสิทธิภาพของฝ่ายค้าน ที่จะสร้างน้ำหนักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้แก่สาธารณะเห็นได้มากน้อยเพียงใด และเป็นเหตุผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหลาย ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ยกมือไม่ไว้วางใจกันถ้วนหน้าตามวัฒนธรรมของสภาผู้แทนราษฎร
เนื่องจากน้ำหนักและข้อมูลที่มีความผิดที่ชัดเจน จะทำให้ ส.ส.ตัดสินใจยกมือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หากข้อมูลและหลักฐานนั้นมีน้ำหนักมาก ก็คงไม่มี ส.ส.กล้ายกมือไว้วางใจใครให้อายฟ้าดิน และขอให้การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ อย่างน้อยเปลี่ยนคนมาบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวให้ฟื้นตัว มีลมหายใจตื่นขึ้นมาใหม่
แต่สำหรับฉันทามติของสังคม พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ได้ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนไปแล้วเป็นเอกฉันท์ ความล้มเหลวของการบริหารบ้านเมืองเป็นที่ประจักษ์ชัดที่ผ่านมา ด้วยการสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน” นายเมธากล่าว
นายเมธากล่าวว่า เรื่องที่ต้องแสดงความบริสุทธ์ใจเพียงเล็กน้อย ในการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่ ป.ป.ช. ไม่กล้าเปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ ก็ยังไม่กล้าหาญที่จะทำ เมื่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสั่งให้เปิดแล้ว การที่ ป.ป.ช.ยังไม่กล้าเปิดเผยอ้างว่ากลัวจะโดนฟ้อง ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เครืองาม ไม่แสดงความจริงใจเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินด้วยตนเองระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมแสดงความบริสุทธ์ใจให้ ป.ป.ช.เปิดเผยได้ไม่มีการฟ้องร้องภายหลัง อย่าอ้างกฎหมายคนละฉบับมาคุ้มครองตนเอง เรื่องนี้ขอให้ทั้งสองได้แสดงความความจริงใจออกมา
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ผมขอเรียกร้องต่อพรรคร่วมรัฐบาล โอกาสนี้เปิดบทบาทพระเอกให้ท่านแล้ว จะเลือกสวรรค์หรือนรก โปรดโหวตเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานที่บ้านเถิดครับ โอกาสนายกฯ ของพรรคร่วมรัฐบาลของท่านก็ยังมี การแก้ไขรธน.ก็ยังดำเนินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่โหวตเพื่อการเปลี่ยนแปลง รธน.ก็แก้ไม่ได้ มันจึงถึงเวลากล่าวคำอำลาและหมดเวลาแล้วครับนาย” นายเมธากล่าว
