‘โฆษกรบ.’ ยัน ‘บิ๊กตู่’ ไม่เคยสั่งการซื้อเอทีเค ผ่านองค์การอนามัยโลก

‘โฆษกรบ.’ ยัน ‘บิ๊กตู่’ ไม่เคยสั่งการซื้อเอทีเค ผ่าน WHO มีแต่เน้นให้จัดซื้อยึดหลัก-โปร่งใส-ยุติธรรม-ตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เคยสั่งการให้ซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) ที่ผ่านองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) และขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว หากมีปัญหาความขัดแย้งอยู่ในปัจจุบัน ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

นายธนกร กล่าวว่า การชี้แจงของนายกรัฐมนตรีในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า ปัจจุบันชุดตรวจเอทีเค เป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตให้ขายจำหน่ายได้ แต่ละยี่ห้อมีราคาแตกต่างกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในวงกว้างจนไม่สามารถตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ได้อย่างครอบคลุม รัฐบาลจึงมีนโยบายจัดหาเอทีเค จำนวน 8.5 ล้านชิ้น และไม่เคยมีข้อสั่งการให้ซื้อชุดตรวจเอทีเค ที่ผ่านการรับรองโดย WHO ในการประชุม ศบค. เนื่องจากในขณะนั้น ยังไม่มีชุดตรวจยี่ห้อใดผ่านการรับรองมีแต่ที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เฉพาะเท่านั้น

นายธนกร ยังเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการสธ.ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง การจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค จำนวน 8.5 ล้านชุดนั้น เป็นไปตามที่คณะกรรมการ EOC ของสธ.ได้อนุมัติให้มีการใช้เอทีเค เพื่อให้สามารถหาผู้ติดเชื้อได้เร็วมากขึ้น ทั้งแบบโปรเฟสชันนัล ยูส และ โฮม ยูส มี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ อย่างไรก็ตาม สปสช. ไม่สามารถสั่งซื้อชุดตรวจเอทีเค จำนวน 8.5 ล้านชุดเองได้ เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่ห้ามสั่งซื้อ จึงใช้กระบวนการสั่งซื้อผ่านกระทรวงสาธารณสุขที่มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมเป็นคนจัดซื้อ ซึ่งเอทีเค เป็นเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เมื่อผ่านการรับรองขององค์การอาหารและยาแล้ว ก็จะสามารถใช้ได้เลย และการจัดซื้อเวชภัณฑ์ของรัฐไม่มีข้อกำหนดใดที่ระบุว่าจะต้องผ่านการรับรอง โดย WHO ในการเปิดให้มีสิทธิเข้าประมูล มีผู้เข้าประมูลถึง 17 ราย และผู้ประมูลผ่าน อย. ทุกราย ผู้ที่ได้รับการทำสัญญาคือผู้ที่ประมูลราคาต่ำสุด โดยราคาขึ้นอยู่กับจำนวนในการสั่งซื้อ ซึ่งในที่ประชุม ศบค. ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี คือ เน้นให้มีการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค ยึดหลักโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้

Advertisement

นายธนกร กล่าวว่า สปสช. ได้เตรียมพร้อมกระจายชุดตรวจโควิดเอทีเค 8.5 ล้านชุด สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ และได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทยบริการประเมินความเสี่ยงโควิด-19 บนแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก่อนรับชุดตรวจเอทีเค สำหรับผู้ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน ในชุมชนพื้นที่สีแดงใน กทม. กรุงเทพมหานครได้กำหนดไว้ 2,000 ชุมชน จะกระจายผ่านทางผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข

นายธนกร กล่าวว่า พื้นที่ กทม. มีชุมชนจำนวน 2,000 ชุมชน กำหนดแจกเอทีเค ชุมชนละ 1,008 ชุด รวมจำนวน 2 ล้านชุดผ่านศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) สำนักอนามัย กทม. ทีมแพทย์อาสาวินิจฉัย และให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ผู้นำชุมชน ในส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อื่นทั่วไป จะกระจายผ่านหน่วยบริการในพื้นที่ ร้านยา คลินิกเวชกรรม และคลินิกพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยระบบ VMI ขององค์การเภสัชกรรมเท่านั้น และหากเกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น จะจัดส่งชุดตรวจเอทีเค ทางไปรษณีย์ เพื่อลดการเดินทางและแพร่กระจายเชื้อต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image