ช่วงบ่าย ‘เพื่อไทย’ เรียงคิวถล่ม ‘ประยุทธ์-เฉลิมชัย’ ไร้ความสามารถ ทำเกษตร ประมงล้มเหลวทั้งระบบ

ช่วงบ่าย ‘เพื่อไทย’ รุมถล่มนายกฯ-เฉลิมชัย ไร้ภูมิปัญญา ความสามารถ ทำเกษตร-ชาวประมงล้มเหลวทั้งระบบ

เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

เวลา 12.23 น. ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ทั้ง นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น นางสกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร และ นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี ต่างอภิปรายโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ​ ที่จงใจและด้อยความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน

นายภาควัต กล่าวว่า นายเฉลิมชัยถือว่าเป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญาและไร้ความสามารถในการบริหาร โดยเฉพาะนายเฉลิมชัยทำให้การบริหารงานด้านการเกษตรล้มเหลวทั้งระบบ สร้างความเสียหายแก่รัฐเป็นจำนวนมาก ไม่ปฎิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จงใจเบียดบังเอาทรัพยากรของชาติไปให้พวกพ้องของตนเอง ปล่อยปละละเลยจนส่งผลความเสียหายของเกษตรกรจำนวนมาก ขณะที่มาตรการชดเชยและเยียวยาเกษตกรไม่ทั่วถึงและเพียงพอ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำอย่างน่าใจหาย ขายข้าวได้เพียงแค่ซื้อปลากระป๋อง

นายภาควัตกล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้ไม่ให้ความสำคัญและมองไม่เห็นถึงหัวใจของเกษตรกร กลับหันมาใช้นโยบายประกันรายได้ ซึ่งตนขอเรียกว่าประกันราคา และทำไม่ได้ ทำไม่เป็น เพียงเพื่อเอาชนะโดยมีเกษตรกร และบุคคลเป้าหมายเป็นแพะ ด้วยอคติและใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีอคติต่อโครงการจำนำข้าว และเมื่อทำลายโครงการรับจำนำข้าวเปลือก แล้ววันนี้ท่านกำลังทำนโยบายประกันรายได้ ตอนหาเสียงข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 1.8 หมื่นบาท และราคาข้าวเจ้าตันละ 1.2 หมื่นบาท แต่พอถึงเวลาจริงปรากฏว่า ทำไม่ไหว เพราะวิธีประกันรายได้ต้องชดเชยเงินทุกบาทแก่ราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำ ต่างจากราคาประกันมาก เนื่องจากไม่มีกลไกลตลาดมาช่วยให้ราคาข้าวเปลือกมีราคาดี

Advertisement

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“นายกฯและ รมว.เกษตรฯกำลังทำให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนท่านเข้ามาอยู่ในตำแหน่งผิดสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชนและชาวนาที่หลงเชื่อ ท่านทวงถามกันเองหรือไม่ ถ้าไม่ทวงถามกันเองแล้วยังอยากจะยกมือไว้วางใจกันเองแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นการผิดสัญญา ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะเขียนเป็นคำสัญญาแล้วไม่รับผิดชอบผลักดันให้เกิดการกระทำ หรือเพียงแค่เอาชนะกันทางการเเมือง ไม่สนใจวิธีแม้จะโกหกคนทั้งประเทศก็ยอม” นายภาควัตกล่าว

นายภาควัตกล่าวต่อว่า ตนมีหลักฐานว่าโครงการประกันรายได้เคยมีจุดรั่วไหลทุจริตขนาดใหญ่ เพราะการประกันรายได้กับราคาประกัน ขอรับเงินชดเชยโดยไม่มีข้าวมาแสดง แต่ต้องชดเชยให้ชาวนาที่ไม่ได้ปลูกข้าวจริง ตั้งปี 2552 วันนี้รูรั่วตรงนี้อุดหรือยัง ถือได้หรือไม่ว่าท่านเอื้อให้มีการทุจริต ใช้งบจำนวนมาก แต่ไปไม่ถึงผู้ปลูกข้าว กลับไปสู่พวกพ้องใคร

“อยากเตือนสติว่าเมื่อล้มโครงการจำนำข้าวแล้วก็ต้องมีโครงการที่ได้ผลดีมาช่วยชาวนา ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนส่งผลให้ชาวนาเดือดร้อนเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์มักจะโต้ฝ่ายค้านด้วยใจที่มืดบอด กระแนะกระแหนว่าต้องใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างความเข้าใจผิดด้วยวาทกรรมอันเป็นเท็จ ขอให้เลิกเสียทีการเอาตัวรอดแล้วโยนความผิดให้คนอื่น เวลาแก้ปัญหาไม่ได้ ก็โยนความผิดให้คนอื่น เวลารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ก็อ้างว่าเป็นผลมาจากรัฐบาลที่ผ่านมา เรื่องแบบนี้ลูกผู้ชายชาติทหารเขาไม่ทำกัน

“ผมได้ยินว่าท่านชอบอ่านหนังสือ หากท่านอยากรู้ว่าพอล้มโครงการรับจำนำข้าวแล้วชาวนาเดือดร้อนอย่างไรบ้าง ผมขอแนะนำให้ท่านนายกฯและ รมว.เกษตรฯไปอ่านหนังสือ ‘ทำลายจำนำข้าว แต่ฆ่าชาวนา’ และขอหนังสือเล่มนี้ทั้งสองท่าน อาจจะเพิ่มเซลล์สมองจาก 8.4 หมื่นเซลล์ ได้ และถ้าท่านลาออกในวันนี้ ประชาชนจะจดจำท่านในฐานะวีรบุรุษ แต่หากให้ประชาชนทั้งประเทศมาร่วมกันขับไล่ ท่านก็กลายเป็นทรราชที่บ้าอำนาจ ท่านอยากให้ประชาชนจดจำในฐานะอะไรคงเลือกได้ด้วยตัวเอง” นายภาควัตกล่าว

ต่อมา น.ส.สกุณา อภิปรายว่า ความเสียหายเป็นหมื่นล้าน เกษตรกรต้องจ่ายไปเพราะความไร้ภูมิปัญญาของรัฐมนตรีชื่อนายเฉลิมชัย ที่มีจุดอ่อนคือไม่ยอมลงพื้นที่ ไม่เข้าใจทุกข์เกษตรกร เงินที่เยียวยากำหนดมาเป็นเศษเสี้ยวความเสียหาย แก้แบบวัวหายแล้วล้อมคอก โดยวัวตายแล้วค่อยจ่ายวัคซีน จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์บางอย่างกับใครบางคน คือพ่อค้าวัคซีนเถื่อนใช่หรือไม่

จากนั้น นายขจิตร อภิปรายว่า วันนี้ขอพูดเรื่องเกี่ยวกับเกษตรกร อันดับแรกคือผลไม้ วันนี้ชาวสวสนลำไยขาดทุนทั้งหมด เหตุเพราะรัฐบาลล่าช้า ช้าทุกเรื่อง จีนเขาส่งหนังสือเตือนมาให้ยกระดับมาตรฐานการควบคุมการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่างๆ ในผักผลไม้ และการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 63 แต่จนถึงเดือนมิถุนายน 64 เตือนทั้งหมด 114 ครั้ง รัฐบาลไทยและคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำอะไรอยู่ ทุกอย่างล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

นายขจิตรกล่าวว่า นี่คือความสูญเสียของเกษตรกร กระทรวงเกษตรฯไม่ต้องมีข้าราชการก็ได้ไปอย่างนี้ ต่อมาคือเรื่องประมง วันนี้ชาวประมงไทยเดินขบวนมาขออาชีพคืน ชาวประมงขายเรือที่เคยมีอยู่ 4 หมื่นลำ เหลือเพียง 1 หมื่นลำ เพราะรัฐบาลออกมาตรการตามอียู ขณะที่เราส่งอาหารทะเลไปให้อียูเพียง 5% เท่านั้น แต่ท่านเลือกทำลายชาวประมงไทย ท่านไม่ใช่รัฐบาลไทยหรือจึงออกกฎหมายมาทำลายชีวิตชาวปะมงไทยทั้งหมด เมื่อไหร่ท่านจะแก้ปัญหานี้ได้ ถ้ามีนายกฯอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ และมีรัฐมนตรีอย่างนายเฉลิมชัย เชื่อว่าไม่มีทางแก้ได้ วันนี้ท่านสร้างความอัปยศให้ชีวิตชาวปประมงไทย ท่านจะคืนชีวิตให้เขาหรือไม่

“อยากพูดผ่านประธานสภาไปยังนายกฯ นาย พ.ต.อ.คนหนึ่งใช้ถุงดำคลุมผู้ต้องหาตาย ตายคนเดียว แต่ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมกับนายพลไม่ต่ำกว่า 100 คน ที่เป็นรัฐมนตรีด้วยกัน ที่เป็นคนรักษาความมั่นคง ที่เป็นผู้อำนวยการโควิด ขอกล่าวหาท่านโดยการอุปมาว่าท่านกำลังใช้ถุงดำคลุมคนทั้งประเทศ และคนกำลังจะตายวันละ 100-200 คน ตายด้วยความอดอยาก และความคับแค้น นี่คือพลงานนายพลของท่านที่ดาวเต็มบ่า

“ท่านแพ้ทุกแนวรบ ท่านชนะกับอะไรบ้าง ท่านทำสงครามกับความยากจนก็แพ้ เด็กนักเรียนก็แพ้เพราะการจัดการของท่าน มีชนะอยู่คนเดียวคือท่าน เพราะท่านทนมาก วันนี้ขอยกมือ 10 นิ้ว กราบวิงวอนผู้แทนด้ยกันพรรคร่วมท่านต้องถอนมือออก เลิกยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ขอให้มือของท่านสนองตอบประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนนายกฯด้วย” นายขจิตรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image