‘ฝ่ายค้าน’ โนสน เจอ รบ.แขวะอภิปรายจืดชืด ลุยซัก ‘บิ๊กตู่’ ปมทุจริต คาดพรุ่งนี้จบศึกไม่เกินหกโมงเย็น

‘ฝ่ายค้าน’ โนสน เจอ รบ.แขวะอภิปรายจืดชืด ลุยซัก ‘บิ๊กตู่’ ปมทุจริต คาด พรุ่งนี้จบศึกไม่เกินหกโมงเย็น

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 2 กันยายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายช่วงเช้าวันนี้ ว่า จะเป็นการอภิปรายเก็บตกเรื่องโควิด-19 เสร็จจากนี้จะเป็นเรื่องการทุจริต โดยยังเน้นไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยจะมี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นตัวหลักในการอภิปราย เสร็จเรื่องทุจริตก็เป็นการอภิปรายไล่เรียงรัฐมนตรีแต่ละคน จะเป็นการเจาะลึกเฉพาะตัว โดยเริ่มที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดว่าน่าจะจบภายในวันนี้

นายสุทินกล่าวว่า สำหรับวันที่ 3 กันยายน เป็นการอภิปรายรัฐมนตรีที่เหลือเป็นรายบุคคล คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และปิดท้ายด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ทั้งนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอภิปรายสรุปช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 3 กันยายน ซึ่งน่าจะเร็วขึ้น คิดว่าน่าจะปิดได้ช่วงบ่ายประมาณ 5-6 โมงเย็น เท่าที่ผ่านมาบริหารเวลาได้ดี เป็นไปตามที่ได้แบ่งสันปันส่วน ซึ่งฝ่ายค้านไม่มีปัญหาในเรื่องของเวลา ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี แต่เป็นที่สังเกตว่ารัฐมนตรีตอบน้อยกว่าเดิม เวลาจึงไปได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนภาพรวมการอภิปราย 2 วันที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจในการนำเสนอข้อมูล แม้ว่าเมื่อวาน (1 กันยายน) และวันนี้จะมีการพูดในประเด็นเดียวกันจนมีการประท้วงว่าประเด็นซ้ำ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการอภิปรายของเรา เรื่องไหนที่เราต้องการโฟกัสอาจจะต้องมีการจัดคนพูดซ้ำ เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะเชื่อว่าผู้ชมอาจจะฟังไม่ทัน หรือบางครั้งเป็นกลยุทธ์หนึ่ง เราจะอาจจะเปิดประเด็นนี้ไปไม่มาก เพื่อให้รัฐมนตรีตอบกลับมา เมื่อเราเห็นช่องก็จะมีการอภิปรายกลับไป ขณะที่การตอบคำถามของฝ่ายรัฐบาลยังไม่ชัดเจน เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง พล.อ.ประยุทธ์ ยังวนอยู่ที่เดิมและเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง แต่ที่สำคัญที่สุด นายกรัฐมนตรียังปฏิเสธไม่ยอมรับความจริง เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ ไม่รู้ใครให้ข้อมูลมาท่านก็งัดออกมา ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งที่ท่านพยายามจะนำเสนอแต่ก็ยังไม่ยอมรับความจริงว่า ประเทศไทยฐานะการคลังเริ่มมีปัญหา และเรื่องเศรษฐกิจทั้งมหภาคและจุลภาค ความลำบากของชาวบ้านยังเห็นชัดอยู่ ถือเป็นความหนักใจของเราและประชาชนว่าการไม่ยอมรับความจริงตั้งแต่ต้น และมีการปิดกั้นการแก้ปัญหา

Advertisement

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าวันนี้ยังมีรายได้จากการท่องเที่ยว เสมือนคิดว่าการท่องเที่ยวยังเดินหน้าได้เป็นปกติ ในระดับที่ท่านพอใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความจริง การลงทุนหลายคนในกลุ่มเศรษฐกิจบอกว่า การลงทุนถือว่าล้มเหลวชัดเจน นักลงทุนรายใหม่ไม่มี นักลงทุนรายเก่าก็ถอนทุนกลับ แต่ท่านกลับยืนยันว่ามีการลงทุนอยู่เยอะและกำลังจะเข้ามาอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจที่ท่านไม่ยอมรับ

“ขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังลำบาก ประชาชนยังโหยหาปัจจัยในการยังชีพ โดยเฉพาะวัคซีน ชุดตรวจโควิด ยารักษาโรค และเครื่องอุปโภคบริโภคที่จะต้องมายาไส้ ยังมีการทุจริตอยู่หลายรายการ และมีการใช้งบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และไม่คำนึงถึงประชาชน ฉะนั้น เราจะเปิดให้เห็นตั้งแต่งบประมาณที่ไม่ชอบโดย พล.อ.ประยุทธ์ และการทุจริตที่ไปทำลายเกษตรกร วันนี้คนฐานล่างลำบากมาก คนที่ใช้แรงงานก็ถูกเลิกจ้างและกลับไปอยู่บ้านและไปพึ่งพาด้านการเกษตร และในวันนี้ก็มีการทุจริตที่ภาคการเกษตร เช่น กรณียางพารา และการทุจริตงบกองทัพ นอกจากนี้โค้งสุดท้ายจะมีทีเด็ดเรื่องของการเปิดโปงทุจริตในหลายเรื่อง” นายสุทินกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่า การอภิปรายเข้ามาสู่วันที่ 3 แล้ว จะมีการแก้เกมเรื่องการประท้วงจากฝ่ายรัฐบาลอย่างไร นายสุทินกล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลประท้วงก็เข้าใจได้ เห็นมีการแบ่งงานกันตั้งองครักษ์ขึ้นมามากมาย ทุกคนก็แอ๊กชั่น ถ้าถามว่าเราจะปรับอย่างไร เราก็คงต้องระมัดระวังเรื่องข้อบังคับ ซึ่งเราอยู่ในข้อบังคับอยู่แล้ว แต่จะเปิดช่องให้มีการประท้วงให้น้อยที่สุด ซึ่งการประท้วงในช่วงหลังที่ผ่านมาไม่มีเหตุผลเท่าไร

เมื่อถามว่า ฝ่ายรัฐบาลมองว่าการอภิปรายของฝ่ายค้านจืดชืดไม่หวือหวา นายสุทินกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลจะต้องด้อยค่าฝ่ายค้าน แต่ถามว่าคนที่ด้อยค่าฝ่ายค้าน รู้ว่าใครพูด และเขามีองค์ความรู้เพียงพอหรือไม่ที่จะวิเคราะห์ ถามว่าจืดชืดหรือไม่ ก็ต้องถามประชาชน อย่างไรก็ตาม การอภิปรายยุคใหม่ไม่ใช่ประเภทบู๊ล้างผลาญเหมือนในอดีต ฉะนั้น คอการเมืองที่ยึดติดกับค่านิยมที่ต้องบู๊ล้างผลาญอาจผิดหวัง เพราะปัจจุบันนี้เป็นการนำเสนอด้วยข้อมูล ซึ่งอาจไม่กระชากอารมณ์ได้เท่าที่ควร ต้องอยู่ที่การปรับเปลี่ยนรสนิยมทางการเมือง

เมื่อถามถึงกรณีที่กองทัพภาคที่ 2 แจ้งความ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โดยอ้างว่าใช้เอกสารปลอมอภิปรายในสภา นายสุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ แต่เชื่อว่า นายณัฐชา มีความพร้อมที่จะอธิบายและต่อสู้ ซึ่งเจอนายณัฐชายังยืนยันว่ามีความมั่นใจ เพียงแต่บางอย่างไม่ได้พูดในที่ประชุม คิดว่าคงจะขึ้นศาลอยู่แล้ว ที่เหลือไว้ไปพูดที่ศาล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image