‘บิ๊กตู่’ อารมณ์ดี แจงปิดท้ายเวทีซักฟอก ชี้ฝ่ายค้านกล่าวหาค้าความตายจากโควิด ไม่เป็นธรรม คำมั่นพาคนไทยพ้นวิกฤต

‘บิ๊กตู่’ อารมณ์ดี แจงปิดท้ายเวทีซักฟอก ชี้ฝ่ายค้านกล่าวหาค้าความตายจากโควิด ไม่เป็นธรรม พร้อมให้คำมั่นพาคนไทยพ้นวิกฤต เชื่อฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงอยู่ในฉากกั้น โดยไม่สวมแมสก์ พร้อมกล่าวว่า ตนต้องการคลี่คลายบรรยากาศที่อาจจะซีเรียสไปสักนิด และวันนี้ตนจำเป็นต้องเปิดหน้าตรงนี้ เพราะมีคนเป็นห่วงนับตนหายใจกี่ครั้ง เสียเวลาเปล่ามานั่งนับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่ตนก็ไม่ได้แพร่เชื้ออะไรใคร และตนขออนุญาติเปิดคลิปเพื่อให้เห็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น และเป็นการรับฟังจากประชาชนมาเกี่ยวกับเรื่องการทำงานของรัฐบาล รัฐมนตรี และการชื่อชมแพทย์ พยาบาล และเราดูภาพที่ไม่ดีมามากพอสมควร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า คลิปดังกล่าวเป็นเรื่องดีๆ ที่ประชาชนต่างฝ่ายต่างรักประชาชนทั้งคู่ อะไรที่เป็นปัญหาเราก็แก้ไขไป อะไรที่เรียกกลับมาไม่ได้ ก็ต้องเอามาพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ่งใคร และโควิด -19 ก็เหมือนคลื่นพายุลมแรง ถึงจะแรงมากที่พักผ่านเข้าไปในพื้นที่ด้วยขนาดของกำลังลมที่แตกต่างกัน และได้แพร่กระจายไปทั่วบริเวณของโลกใบนี้ และคลื่นนี้ก็ยังคงเป็นคลื่นลมแรงที่ยังไม่มีวี่แววเด่นชัดว่าจะสงบลงเมื่อไหร่ ประเทศไทยนั้นนับว่าเป็นประเทศลำดับแรกๆที่เจอกับพายุโควิ-19 และเราก็ได้พบเจอคลื่นขนาดต่างๆ จนถึงวันนี้ที่เราประสบคลื่นขนาดใหญ่ แต่ยังไม่ใช่คลื่นขนาดยักษ์เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศทั่วโลก ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่

“ผมขอยืนยันว่า ว่าประเทศไทยจะไม่เป็นประเทศที่รับมือโควิด-19 ในเวลานี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าแย่ที่สุด และคิดว่าเราจะรับมือได้ในระดับที่ดี เต็มกำลังความสามารถของทุกฝ่าย ทั้งสาธารณสุข ความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ต่างๆ เจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ทำงานอย่างเสียสละฝ่ายประชาชนก็ร่วมมือกับมาตราการที่รัฐกำหนดเป็นอย่างดี ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความเข้าใจและร่วมมือกันในการจะรวมพลังกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน”นายกฯ กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่าการมีคนตายเพราะโรคระบาดโควิด เท่ากับรัฐบาลค้าความตายนั้น ตนว่าไม่เป็นธรรม และเป็นอันตราย เหตุใดจึงไม่พิจารณากลับด้านดูบ้างว่าทุกวันนี้ อัตราการหายป่วยของไทยมากกว่า 85 เปอร์เซนต์ ต่อผู้ติดเชื้อในประเทศ มีผู้ป่วยสะสม 1.23 ล้านคน หายป่วยไปแล้ว 1.05 ล้านคน ท่านไม่เคยพูด และจากการที่ผู้ติดเชื้อหายป่วยก้ด้วยความเสียสละ ความร่วมมือ ความทุ่มเท ของบุคคลากรทางการแพทย์ด้านน้าและหน่วยสนับสนุนทั้งประเทศ และความร่วมมือของทุกคน และวัคซีน การบริหารงานของรัฐบาล ที่มีมาตรการต่างๆ ออกมาตามลำดับ ตลอดจนภาคเอกชน จิตอาสาต่างๆ ที่ร่วมกันมือช่วยกันรักษาชีวิตประชาชน ได้มากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของโลกถึง 2 เท่า จึงขอชวนให้ทุกคนคิดและมองไปข้างหน้าว่าเราไม่อาจตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลั จนไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย และเราไม่อาจจะกลับไปใช้ชีวิตที่เหมือนเดิมได้อีกต่อไป จึงจำเป้นต้องปรับตัวจำเป็นต้องหาแนวทางใหม่ในการข้ามพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน มีแนวทางการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิต ปลอดภัยจากโควิด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนด้านเศรษฐกิจช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้รัฐบาลได้เตรียมการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการจ้างงานเพื่อรองรับคนว่างงานและนักศึกษาจบใหม่ โดยทุกมาตรการจะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ หัวใจสำคัญคือการสร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ ขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ปี 64 เป็นปีแห่งความท้าทายเนื่องจากเป็นปีที่จะประคับประคองเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด ทุกคนควรใช้โอกาสนี้เดินหน้าประเทศ โดยยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลที่จะเดินหน้าต่อจากนี้ ประกอบด้วย การต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในภูมิภาค การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน อุตสาหกรรมเดิมต้องเข้มแข็ง การสร้างภูมิคุ้มกันและแต้มต่อให้ SMEs เพื่อสร้างโอกาสด้านต่างๆ สร้างการจ้างงาน การปฏิรูปและการพัฒนาระบบการบริหารงานภาครัฐ

Advertisement

“ช่วง 3 วันที่ผ่านมาเราได้ยินข้อมูลและประเด็นต่างๆมากมาย ผมขอบคุณและยินดีรับฟังทุกข้อมูล ทุกความคิดเห็น ทุกข้อเสนอแนะ รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดจุดอ่อนในการทำงาน นี่คือคำมั่นของผมที่จะทำงานเพื่อให้คนไทยทุกคนที่กำลังได้รับผลกระทบจากโควิด รัฐบาลจะร่วมมือกับทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามที่เราคาดหวัง โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด เราชาวไทยเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ แม้จะไม่มีใครบอกได้ว่าวิกฤตโควิดจะสิ้นสุดลงเมื่อใด แต่ความหวัง ความศรัทธา จะเป็นพลังสำคัญให้เราก้าวข้ามความยากลำบากได้ พร้อมกับความรักและความสามัคคีของคนในชาติก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนไปสู่จุดหมายร่วมกัน “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image