09.00 INDEX จับตา บทบาท มหาวัดสร้อยทอง หลวงพี่สมปอง หลวงพี่ไพรวัลย์
ผลสะเทือนจากการ “แบทเทิล” ในทางธรรมระหว่าง พระมหาสมปอง ตาลปุตโต กับ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ จากวัดสร้อยทอง เมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่ง
ไม่เพียงเพราะมีประชาชนทั้งที่เป็นพุทธศาสนิกและต่างศาสนิก กว่า 2 แสนคนเข้าไปมีส่วนในการปฏิสัมพันธ์
หากแต่ได้ก่อให้เกิดความรู้และความรู้สึกตามมา ทั้งในด้านที่เห็นด้วย และในด้านที่เห็น “ต่าง” กระทั่งกลายเป็นวิวาทะอย่างแหลมคมยิ่งในทางความคิด
อาจเป็นเพราะบทบาทก่อนหน้านี้ไม่ว่าของ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ไม่ว่าของ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เคยถูกเตือนจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
จึงยิ่งทำให้การ “แบทเทิล” ครั้งนี้ได้กลายเป็น “เส้นแบ่ง” ในทางความคิดและในทางการเคลื่อนไหวอย่างอึกทึกครึกโครม
เด่นชัดยิ่งว่าอาจจะกลายเป็นประเด็นเป็นวาระแหลมคม
เด่นชัดยิ่งว่าอาจจะถูกวาดต้อนเข้าไปอยู่ในความขัดแย้งที่สะสม และหมักหมมอยู่ในความเชื่อทาง “ศาสนา”
แม้ว่ารูปแบบการนำเสนอธรรมไม่ว่าจะมองจากด้านของ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ไม่ว่าจะมองจากด้านของ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ มิได้เป็นเรื่องใหม่ซึ่งเพิ่งอุบัติ
เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีพระนักเทศน์อย่าง หลวงพี่พยอม กัลยาโณ เคยปฏิบัติมาแล้วและประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
แท้จริงแล้ว พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ก็เสมอเป็นเพียงการก้าวตามรอยของ หลวงพี่พยอม กัลยาโณ และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ก็เสมอเป็นเพียงการต่อยอดไปอีกขั้นตอนหนึ่ง
นั่นก็คือ เป็นการแสดงธรรมภายใต้หลักคิดที่ว่าจะย่อยออกมา อย่างไรเพื่อให้คนรุ่นใหม่รับได้และไม่ปัดปฏิเสธตั้งแต่เริ่ม “นโม”
นั่นก็คือ เป็นการปรับ “รูปแบบ” โดยที่ “เนื้อหา” ทางธรรมคงเดิม
ความหวาดเสียวเป็นอย่างยิ่งก็คือ มีบางกลุ่มบางฝ่ายพยายามจะกวาดรวมเอาการแสดงออกของ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เข้าไปอยู่ในกระแสขัดแย้งใหญ่
จากรัฐประหาร 2549 มายังรัฐประหาร 2557
ผลัก พระมหาสมปอง ตาลปุตโต ผลัก พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ไปเป็นพวกเดียวกับพวกควายแดง หรือพวกสามกีบ
เพียงเพราะน้ำเสียงเหน็บแนม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา