สธ.ฟุ้ง กางแผนปีหน้าซื้อวัคซีนอีก 200 ล้านโดส รองรับกลายพันธุ์ เจรจา แอสตร้าฯ รุ่น 2

“สาธิต” กางแผนจัดหาวัคซีนโควิด-19 ปี’65 ไว้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านโดส รองรับโควิดกลายพันธุ์ มั่นใจมีวัคซีนเพียงพอฉีดให้ ปชช.

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามของ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว.ถามถึงความคืบหน้าแผนการจัดหาวัคซีนในปัจจุบัน ถึงอนาคต รวมถึงลำดับการกระจายวัคซีนไปสู่เป้าหมายคือประชากรกลุ่มเสียง และแผนการสื่อสารเพื่อให้ประชาชนเข้าใจถูกต้อง ให้ได้รับความร่วมมือจากสังคมถึงจะเกิดผล ไม่ใช่เพียงแต่มีวัคซีนเท่านั้น

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข มีแผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 ไว้ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านโดส เพื่อรองรับต่อวิวัฒนาการของวัคซีน และการแพร่ระบาดของโรคที่มีการกลายพันธุ์ เพื่อนำมาใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิให้กับประชาชนในเข็มที่ 3 ซึ่งขณะนี้ ได้เริ่มการเจรจา เพื่อเตรียมการจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนไวรัลเวกเตอร์ ที่กำลังพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 กับบริษัทผู้ผลิตแล้ว ซึ่งเราได้เปรียบเพราะบริษัทที่ผลิต อยู่ในประเทศไทย รวมถึงวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนสปุกนิก-วี

นายสาธิตกล่าวต่อว่า ส่วนแผนการบริหารจัดการวัคซีนในปีนี้ ไทยจะได้ประมาณ 124 ล้านโดส โดยแบ่งเป็นวัคซีนหลัก ทั้งแอสตร้าเซเนก้า 61 ล้านโดส ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ จะได้รับประมาณ 7.3 ล้านโดส ในเดือนตุลาคม จะได้รับ 10 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม จะได้รับเดือนละ 13 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ในเดือนนี้ มีแผนจะได้รับจำนวน 2 ล้านโดส เดือนตุลาคมอีก 8 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม อีกเดือนละ 10 ล้านโดส รวมทั้งหมดกว่า 31 ล้านโดส ดังนั้นในปีนี้วัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกจะได้ประมาณ 140 ล้านโดส จึงมั่นใจว่าในปี 2564 จะมีวัคซีนเพียงพอฉีดให้กับประชาชน

Advertisement

“ยอมรับว่าการกระจายวัคซีน ก่อนหน้านี้มีปัญหาในเริ่มแรก แต่หลังจากนี้ มั่นใจว่า การกระจายวัคซีนจะเป็นไปตามเป้าหมาย หลังการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่มีความแน่นอนมากขึ้น จึงจะทำให้ในปีนี้ ไทยจะมีปริมาณวัคซีนเพียงพอ ตรงเป้าหมาย และจะเร่งกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง และสตรีตั้งครรภ์ แต่ยังติดปัญหาว่า ผู้สูงอายุในต่างจังหวัดยังกลัววัคซีน หรือบางคนมีอุปสรรคในการเดินทาง แต่กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดฉีดเชิงรุก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถมารับวัคซีนได้เร็วที่สุด ดังนั้นภายในเดือนตุลาคม เรากำหนดเป้า 608 ให้เสร็จสิ้นให้ใด้ 100 เปอร์เซ็นต์ ” นายสาธิตกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image