หมายเหตุ – ความเห็นนักวิชาการ พนักงานท้องถิ่น นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กรณีที่ประชุม ครม. มีมติให้จัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยให้ กกต.จัดเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก่อนที่มีกว่า 5,300 แห่ง ช่วงปลายปี 2564 คาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
เหตุแห่งการว่างเว้นการเลือกตั้ง อบต.อย่างน้อยเป็นเวลานานถึง 10 ปี หรือหากนับจากการทำรัฐประหารในปี 2557 ถึงปัจจุบันก็ผ่านไปแล้ว 7 ปี ทำให้พฤติกรรมในสนามการเมืองท้องถิ่นของประชาชนมีความเปลี่ยนแปลง เพราะต้องอดทนกับการทำหน้าที่รักษาการของนายก อบต.และสมาชิก อบต.อย่างต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดการใช้อำนาจนิยมคล้ายเป็นมาเฟียในท้องถิ่น เพราะกลุ่มการเมืองที่ครองอำนาจใน อบต.นาน 7-10 ปี แทนการทำหน้าที่ตามวาระปกติ 4 ปี มีความเชื่อมั่นในอำนาจของตัวเองมากยิ่งขึ้น และอำนาจหรืออิทธิพลของกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่มที่คงค้างทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหลายด้าน
ประกอบกับความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ของการทำรัฐประหาร ส่วนหนึ่งเชื่อว่าต้องการทำลายรากฐานของประชาธิปไตยในท้องถิ่น ขณะที่ระบอบประชาธิปไตยของไทยได้เจริญงอกงามอย่างเต็มที่หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 จากนั้นในปี 2537 มีการกระจายอำนาจมี อบต.เกิดขึ้นทั่วไประเทศ ต่อมามีการพัฒนาไปสู่การเลือกตั้งนายก อบต.โดยตรง เพื่อตอบโจทย์ของการสร้างประชาธิปไตย ก็จะต้องกระจายอำนาจหรือสร้างหน่วยการปกครองในระดับท้องถิ่นถึงตำบล หมู่บ้าน
แต่การรัฐประหารปี 2557 ทำให้มีแนวคิดการรักษาอำนาจแบบรวมศูนย์ไว้ที่รัฐทหารส่วนกลาง ดังนั้น จึงต้องแช่แช็ง อบต.ที่ถูกจัดตั้งโดยกระบวนการที่ทำให้นักการเมืองท้องถิ่น หันมานิยมการปกครองในระบบแบบเผด็จการที่เอื้ออำนวยอำนาจและผลประโยชน์ให้กับผู้มีตำแหน่งทางการเมือง จิตใจของนักการเมืองส่วนใหญ่ที่เคยกระตือรือร้นเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่น มีความคิดสร้างสรรค์ให้กับตำบล หมู่บ้านของตนเอง ได้ถูกทำให้กลายเป็นการรับใช้รัฐราชการส่วนกลาง การทำงานในฐานะผู้บริหารท้องถิ่นจำเป็นต้องเงี่ยหูฟังคำสั่งจากหน่วยงานส่วนกลาง ผลจากการแช่แข็งอย่างยาวนาน ทำให้นักเลือกตั้งในสนามการเมืองท้องถิ่นกลายเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ
การเลือกตั้ง อบต.ในครั้งต่อไป ผู้สมัครหน้าเก่าที่เคยทำหน้าที่รักษาการจากมาตรา 44 ของ คสช.จะได้เปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจน เนื่องจากการเลือกตั้งระดับตำบล หมู่บ้าน จะต่างจากการลงคะแนนเลือก ส.ส.เพราะอำนาจ หรืออิทธิพลในหมู่บ้าน จะมีผลโดยตรงกับประชาชนหากไม่คล้อยตามคนบางกลุ่มที่เสพติดอำนาจ และต้องการสืบทอดการทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้สมัครหน้าใหม่ๆ ที่หวังจะมีความเปลี่ยนแปลง ก็คงไม่มีโอกาสเห็นการเสนอตัวของคนหนุ่มสาวที่มีทัศนคติในการทำหน้าที่เพื่อสิ่งที่แตกต่าง
แต่การเลือกตั้งจะมีให้เลือกแค่กลุ่มอิทธิพลเดิมกับกลุ่มผลประโยชน์ใหม่ที่จะพยายามเข้าไปยึดที่นั่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อแนวคิดต่อการเมืองในระบบประชาธิปไตยในรูปแบบสากล ส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล เพราะการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น กกต.แทบจะไม่ให้ความสนใจในการกำกับดูแลเพื่อทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ เที่ยงธรรมตามเป้าหมาย เนื่องจากผลการเลือกตั้งไม่ได้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่กลุ่มที่ได้รับเลือกตั้งไม่ว่าหน้าใหม่หรือหน้าเก่า จะมีความเชื่อมั่นในการทำงานร่วมกับรัฐบาลที่มาแนวทางการสืบทอดอำนาจ เพราะคนเหล่านี้ก็ไม่ต่างจาก 250 ส.ว.มองไม่ยากและรู้ดีว่าใครมีอำนาจที่แท้จริง
สำหรับข้อวิตกกังวลเรื่องประชาชนจะแห่กลับบ้านไปใช้สิทธิ ทำให้มีปัญหาการระบาดของโควิด หากมีการประเมินก่อนรัฐบาลจะล็อกดาวน์ เชื่อว่าคนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ใน กทม.ตัดสินใจกลับบ้านเกิดแล้วจำนวนมาก ขณะที่การเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้การใช้เงินหาเสียงจะเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะประชาชนมีผลกระทบจากโควิดทำให้ขาดรายได้ จึงเชื่อว่าระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งน่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับตำบลหมู่บ้านได้ดีพอสมควร ประชาชนส่วนหนึ่งจะไม่สนใจนโยบาย แต่คิดว่าเลือกใครเข้าไปก็คงจะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการซื้อเสียงจึงเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น บางภูมิภาคเคยประกาศว่าเงินซื้อไม่ได้ ขณะนี้มีผลวิจัยที่ชัดเจนว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ผ่านมีการซื้อเสียงทุกจังหวัด
ทรงศักดิ์ โอษะคลัง
รองประธานสมาพันธ์ปลัด อบต.แห่งประเทศไทย แกนนำปลัด อบต. ภาคอีสาน
เห็นด้วยกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดให้มีการเลือกตั้งในรูปแบบองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภายในปี 2564 และสนับสนุนให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ นายก อบต. และสมาชิกสภา อบต.ทั่วประเทศ หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายในวันที่ 12 ธันวาคม 2564
การพ้นจากตำแหน่งของนายก อบต.ในวันที่ 15 ตุลาคม ทำให้การออกคำสั่งแต่งตั้งและเลื่อนขั้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่จัดทำไว้เรียบร้อยเป็นปกติ ไม่ต้องขอใช้อำนาจ หรือมีการเปลี่ยนแปลงผู้ประเมิน รวมทั้งมีหนังสือโต้ตอบรับโอนย้าย สายงานผู้บริหารกรณีเกษียณอายุราชการ ผู้บริหารมีหนังสือตอบรับได้ก่อนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ผ่อนคลายเรื่องปลดล็อกการโอนย้ายได้ระดับหนึ่ง
ขณะที่การเลือกตั้งในวันที่ 12 ธันวาคม 2564 เชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขสามารถฉีดวัคซีนได้ประชาชน 2 เข็ม เพิ่มมากขึ้นตามสัดส่วนประชากร และทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า กกต.สามารถบริการจัดการเลือกตั้ง อบต.ได้ดีมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งนายก อบจ.หรือเทศบาล เมื่อช่วงต้นปี 2564 ส่วน อบต.จะมีค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคระบาดในหน่วย ส่วนการแบ่งหน่วยเลือกตั้งในระดับหมู่บ้านจะมีความคล่องตัวในการคัดกรองผู้ใช้สิทธิในสถานการณ์โควิด มากกว่าหน่วยเลือกตั้งในเขตชุมชนเมือง
คาดว่า การเลือกตั้ง อบต.ครั้งนี้ประชาชนจะตื่นตัวไปใช้สิทธิมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากรอคอยการเลือกตั้งมานานมาก และประเมินว่าการแข่งขันในระดับหมู่บ้านจะมีความเข้มข้นมากกว่าในอดีต หลังจากกฎหมายกำหนดให้มีสมาชิก อบต.เหลือเพียงหมู่บ้านละ 1 ตำแหน่ง จากเดิมมี 2 ตำแหน่ง การลดจำนวนอาจจะไม่ตอบโจทย์ทางการเมือง แต่ผู้สมัครสมาชิก อบต. จะต้องมีคุณภาพในระดับที่ประชาชนไว้วางใจในความซื่อสัตย์ สุจริต
การลดจำนวนสมาชิก อบต.ทั่วประเทศทำให้ อบต.ประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายค่าตอบแทนสมาชิกได้มากกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท สามารถนำงบที่เหลือไปพัฒนาอีกหลายด้าน สำหรับการทำงานของสมาชิก อบต. 1 คนต่อ 1 หมู่บ้าน คาดว่าจะมีเอกภาพในการทำหน้าที่มากกว่าเก่า ทำให้สภา อบต.มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมทั้งประสานการทำงานกับผู้นำท้องที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยงยศ แก้วเขียว
นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย
หากรัฐบาลและ กกต.ตัดสินใจจะจัดการเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม 2564 สมาคมในฐานะที่มีสมาชิกเป็นผู้นำท้องที่รวมกว่า 2 แสนคน ทำงานใกล้ชิดประชาชนในตำบลหมู่บ้านขอเรียนว่าไม่ได้คัดค้าน แต่ถ้าหากจะจัดเลือกตั้งให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดก่อนสิ้นปี ก็ขอให้รัฐบาลโชคดี ที่สำคัญการเลือกตั้ง อบต.ไม่ควรทำร้ายประเทศชาติและสังคมในภายหลัง เพราะอาจทำให้มีคลัสเตอร์ใหญ่กระจายไปทั่วประเทศ เหมือนสถานการณ์โควิด ที่เป็นผลมาจากการปล่อยให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์เมื่อเดือนเมษายน 2564 ทำให้มีการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงหลายด้าน แต่รัฐบาลยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ
หลายเดือนที่ผ่านมากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล อสม. ทำงานหนัก 24 ชั่วโมง เพราะเป็นด้านหน้าในการเผชิญหน้ากับโควิดด้วยความเหนื่อยยาก ดังนั้น ขอให้รัฐบาล และกกต.คิดอย่างมีสติหากจะเลือกตั้ง อบต. เพราะนักการเมืองจะต้องเดินไปหาเสียงด้วยการเคาะประตูทุกประตูบ้าน ไปพบปะใกล้ชิดประชาชน มีการรวมกลุ่ม ขณะที่ประชาชนบางส่วนในหมู่บ้านยังมีคนเสี่ยงสูง ผู้ป่วยสีเขียว มีบุคคลที่ต้องกักตัว 14 วัน และคงเป็นไปไม่ได้หากจะคิดว่าควรมีการคัดกรองโควิดเฉพาะวันเลือกตั้ง เพราะการหาเสียง และการกำหนดเงื่อนไขในหน่วยเลือกตั้งของ อบต.จะต่างกับหาเสียงและวันเลือกตั้งของเทศบาล และ อบจ.เนื่องจากในช่วงปลายปี 2563 และต้นปี 2564 ในประเทศยังไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเกิน 1 หมื่นคนต่อวัน
ส่วนการคาดหมายว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าสถานการณ์จะมีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ใครจะกล้าออกมายืนยันเรื่องนี้ เพราะประชาชนบางส่วนยังรอวัคซีนเข็มแรก ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมาย 70% แต่ถึงที่สุดแล้วหากรัฐบาลออกมายืนยันว่าพร้อมที่จะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นจากผลของการเลือกตั้ง อบต. ทุกฝ่ายก็คงไม่ขัดข้อง แต่ขอให้รีบแสดงความชัดเจน เพราะนักการเมืองจะได้ทำใจและเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อออกไปเสี่ยงดวงหาเสียง