“สุชาติ” ไม่รอครบองค์ประชุม สั่งปิดประชุม หลังพิจารณาร่างแก้ไข ป.อาญา ทำฝ่ายค้านเก้อ รอพิจารณาร่าง กม.ยกเลิกคำสั่ง คสช. ชี้ ทั้งวัน ส.ส.เข้าประชุมน้อยตลอด จนฝ่ายค้านท้วงเหตุต้องนั่งรักษาองค์ประชุมให้ตลอด
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 กันยายน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธาน ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอ ในวาระรับหลักการ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นำเสนอรายละเอียดของร่างกฎหมายว่า ได้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา โดยปรับเพิ่มเกณฑ์อายุขั้นต่ำที่จะรับโทษทางอาญา จากเดิมที่กำหนด 10 ปี เป็น 12 ปี โดยแก้ไขจำนวน 2 มาตรา คือมาตรา 73 วรรคแรก ที่กำหนดว่า เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี หากกระทำความผิดตามกฎหมายไม่ต้องรับโทษ และแก้ไขมาตรา 74 วรรคแรก กำหนดว่า เด็กอายุกว่า 12 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี หากกระทำผิดตามกฎหมายบัญญัติไม่ต้องรับโทษ
นายสมศักดิ์กล่าวชี้แจงด้วยว่า สำหรับเหตุผลที่ต้องแก้ไข คือ ทางการแพทย์ระบุว่า เด็กอายุ 7-12 ปี ยังพัฒนาความคิด สติปัญญาและจริยธรรมไม่สมบูรณ์ ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่สามารถคาดการณ์ผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนได้ นอกจากนั้น การวิจัยศึกษาที่เกี่ยวกับการกระทำของเด็กพบว่า เด็กที่อายุน้อย เมื่อกระทำผิด มีแนวโน้มจะกระทำผิดซ้ำ และเป็นนิสัย หากนำเข้ากระบวนการยุติธรรมก่อนวัยอันควรมีผลเสียต่อการกลับมาใช้ชีวิตปกติ นอกจากนั้นพบว่าสถิติเด็กอายุ 7-12 ปี กระทำผิดมีแนวโน้มลดลง และที่สำคัญ คือ เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรฐานของรัฐธรรมนูญ และอนุสัญญาว่าด้วยสทธิเด็กและกติการะหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ
จากนั้น ส.ส.ได้อภิปรายก่อนรับหลักการ โดยมีข้อทักท้วงการแก้ไขกฎหมายที่ไม่ครบถ้วนกับข้อเสนอแนะของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่นอกจากปรับเกณฑ์อายุแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็ก อีกทั้งมองว่าการเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการฯ ให้ใช้สภาพิจารณาสามวาระรวด เนื่องจากเนื้อหาของร่างกฎหมายไม่สามารถปรับแก้รายละเอียดได้ เพราะหลักการที่เสนอร่างกฎหมายนั้นกำหนดไว้แล้ว
หลังจากมีผู้อภิปรายจนครบถ้วน นายสุชาติได้เรียก ส.ส.เข้าห้องประชุมเพื่อนับองค์ประชุมและลงมติ แต่ต้องใช้เวลารอสมาชิกนานกว่า 5 นาที ทำให้นายสุชาติกล่าวว่า “ประธานไม่รอแล้วครับ ขอปิดประชุม” และสั่งปิดประชุมทันที เวลา 19.04 น. ทำให้สภาต้องค้างการลงมติดังกล่าว และไม่สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2560 ซึ่งพรรคเพื่อไทยขอเลื่อนให้มาพิจารณาเป็นลำดับถัดไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ของสภา วันนี้ (8 กันยายน) เป็นที่สังเกตว่า การนับองค์และลงมติแต่ละครั้งนั้น มี ส.ส.เข้าร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ที่เกินกว่าองค์ประะชุม จำนวน 240 คน เพียงเล็กน้อย และทำให้ผลการลงมติผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว ทั้งนี้ก่อนหน้านั้น นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวกับที่ประะชุมว่า ขอให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมด้วย เพราะขณะนี้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมให้ หากเป็นเช่นนั้นอาจกระทบการทำงานได้