ลุ้นโหวตร่างรธน.วาระ 3 ‘พปชร.-ภท.-ชทพ.’ ชี้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. – 7พรรคเล็กลุยคว่ำ เพื่อไทยชี้ส.ว.ตัวแปร

ความเคลื่อนไหวการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่…) พ.ศ. … (แก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง) วาระ 3 ในวันที่ 10 กันยายนนี้

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 กันยายน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ถึงการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 3 ในวันที่ 10 กันยายน ว่า ส.ส. และ ส.ว. ต้องคิดกันว่ารัฐธรรมนูญที่แก้แล้ว ตกผลึกแล้วจะเดินหน้าอย่างไร ก็ได้ให้ไกด์ไลน์ในพรรคแล้วว่าจะโหวตไปในทิศทางไหน ส่วนคนใดที่ไม่โหวตตามที่วางแนวทางไว้ ก็ไม่ขัดข้อง เพราะถือว่าทุกคนมีเอกสิทธิ์ มีความคิด และอุดมการณ์ที่ไม่เหมือนกัน ส่วนพรรคอื่นๆ ได้ถามว่าจะไปทิศทางไหน ก็ไม่ขัดข้อง

“วิปรัฐบาลจะให้โอกาสทุกพรรคแสดงความเห็น ส่วนจะโหวตไปทิศทางไหน ก็ไม่ขัดข้อง แต่ขณะนี้ ส.ว.เป็นข้อสงสัยอยู่ แต่ในวาระที่ 1 ส.ว.โหวตให้ 200 กว่าเสียง และในวาระ 2 ยังมีอีก 180 เสียง แล้วจะมากลับในวาระ 3 โดยที่ไม่ถือ 84 เสียง ก็ต้องไปถาม ส.ว.แล้วว่าที่ไม่โหวตให้เพราะอะไร เพราะเราเคารพสิทธิของวุฒิสภา เขาก็มีเหตุผล ดังนั้น ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการโหวตอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ไปตามแนวทางกรรมาธิการที่พิจารณาเสร็จแล้ว ควรไปทิศนั้นทั้งหมด แต่จะไม่มีมติพรรค วาระที่ 3 น่าจะไม่ผิดเพี้ยนเท่าไร” นายวิรัชกล่าว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า ประเมินว่าขณะนี้ยังเป็นที่สับสนชี้ชัดไม่ได้ว่าจะออกมาแบบไหน เพราะตัวชี้ขาดคือ ส.ว. ที่ยังคงแลกเปลี่ยนความเห็นกันจนนาทีสุดท้าย ตนเห็นว่ายัง 50-50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เดาใจยาก แต่ในส่วนของพรรค พท. ไม่วิตกว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะบัตรใบเดียวเราก็ชนะ ถ้า 2 ใบก็มั่นใจว่าชนะ แต่บัตร 2 ใบ การเมืองจะเดินไปด้วยความราบรื่น ระบบเป็นที่น่าเชื่อถือของต่างชาติ ประชาชนยอมรับผลการเลือกตั้ง และยอมรับกระบวนการทางการเมืองมากกว่าเดิม แต่บัตรใบเดียวจะไม่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชน การยอมรับจากประชาชนก็น้อย การตั้งรัฐบาลก็จะมีสภาพแบบที่เป็นอยู่ บางพรรคหลายพ่อหลายแม่ ดังนั้น เรื่องผลการเลือกตั้งแพ้ชนะเราคิดว่าระบบไหนเราก็พร้อมเสมอ

Advertisement

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ส.ส.ของ ชทพ. ถึงทิศทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันที่ 10 กันยายนนี้ ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องให้ฟรีโหวต ให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

ขณะที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมตัวแทน 7 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล ได้แก่ พลเมืองไทย พลังธรรมไทย ครูไทย ไทรักธรรม ประชาธรรมไท พลังชาติไทย เพื่อชาติไทย แถลงจุดยืนในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันที่ 10 กันยายน นี้ ว่า กลุ่มพรรคเล็กมีมติโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ด้วยเหตุผลว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ผ่านการทำประชามติจากประชาชนแล้ว อีกทั้งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยกเลิกระบบจัดสรรปันส่วนผสม ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตัวเล็กๆ เข้ามามีโอกาสทำงานในสภา รวมถึงล้มระบบ ส.ส.พึงมีที่ถือเป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุด และยังล้มหลักการเรื่องคะแนนเสียงตกน้ำจากเดิมที่นำมารวมเป็นคะแนนของพรรคการเมืองได้ตกน้ำไป เพราะถ้าผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้พรรคขนาดเล็กจะสูญพันธุ์ พรรคขนาดกลางจะถูกแช่แข็งไปด้วย ยืนยันว่าพรรคเล็กมีจุดยืนเรื่องนี้มาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคระบุพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. จุดยืนของพรรค หากจะแก้รัฐธรรมนูญต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคการเมืองหรือนักการเมือง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image