ลุ้นโหวตร่างรธน.วาระ 3 วันนี้ ‘พปชร.-พท.-ปชป.’ เทเสียงหนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ชี้ 250 เสียงส.ว.ก้ำกึ่งสูสีกัน
กรณีการโหวตร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 83 และมาตรา 91 เรื่องระบบการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ในวาระสาม ในวันนี้ (10 ก.ย.) นั้น รายงานข่าวเผยว่า ค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาในวาระ 3 โดยมีเสียงจากส.ส.และส.ว.ให้ความเห็นชอบ
ในส่วน ส.ส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 480 เสียงนั้น มีเสียงสนับสนุนหลักจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เทคะแนนไปทางเดียวกันเอาด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เมื่อรวมกับเสียงพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา แล้ว จะมีเสียงสนับสนุนอยู่ที่ประมาณ 300 เสียงต้นๆ มากกว่าฝ่ายที่ไม่เอาด้วยกับบัตร 2 ใบที่ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคเล็ก ที่มีเสียงรวมกันประมาณ 170 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เสียงส.ว.มีอยู่ 250 เสียง ปรากฏว่ามีเสียงก้ำกึ่งสูสีกัน ระหว่าง ส.ว. ฝ่ายที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดย ส.ว.ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนใหญ่เป็นส.ว.สายจังหวัดและสายอาชีพ และกลุ่มที่ไม่ชื่นชอบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอยู่ประมาณ 100-130 เสียง จะลงมติไม่รับร่างและงดออกเสียงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 และ 91 เนื่องจากเกรงว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้เกิดเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภา เกรงว่าจะเปิดช่องให้พรรคพท. ของนายทักษิณ กลับมามีอำนาจในการเลือกตั้งสมัยหน้า
ขณะที่ส.ว.ฝ่ายที่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สามารถรวบรวมเสียงส.ว.สนับสนุนได้เกิน 84 เสียงแล้ว แม้จะมีเสียงน้อยกว่าฝ่ายไม่เห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ แต่ถือว่ามีเสียงเกิน 1 ใน 3 ของจำนวนส.ว.ทั้งหมด 250 คน ส.ว.กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นสายทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่เคยลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรกมาแล้ว โดยได้รับสัญญาณไฟเขียวให้เดินหน้าสนับสนุนการโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระสาม ให้เหตุผลว่า หากคว่ำวาระสาม จะถูกมองว่า จ้องล้มรัฐธรรมนูญ ทำให้สถานการณ์การเมืองมีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งแม้จะโหวตผ่านวาระสามไปได้ ก็ต้องมีผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวอีกขั้นตอน
ดังนั้น เมื่อรวมเสียงส.ส.และส.ว.แล้ว จะได้เสียงสนับสนุนมากกว่ากึ่งหนึ่งหรือเกิน 365 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ขณะนี้ทั้งหมด 730 คน โดยมีเสียงเห็นชอบจากส.ว.ร่วมด้วยครบ 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง แต่ในเสียงของส.ว.อาจจะเกิน 84 เสียง มาไม่มาก แต่ก็เพียงพอให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 และ 91 ในวาระสาม ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 10 กันยายนต้องไปรอดูว่า หลังจากนี้จะมีสมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันเกิน 1 ใน 10 ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่
พล.อ.นพดล อินทปัญญา ส.ว.เพื่อนรักของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระสามในวันที่ 10 กันยายนนั้น ส.ว.ฟรีโหวต ยืนยันไม่มีใบสั่งให้คว่ำหรือหงาย แต่ละคนล้วนมีเหตุผลใช้ดุลยพินิจพิจารณา ส่วนตัวพิจารณาผ่านตั้งแต่วาระ 1-2 ในวาระ 3 จะพิจารณาให้ผ่านเช่นกัน ถ้าไม่มีการอภิปรายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมก็ยังไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ผ่าน
เมื่อถามว่า มีการมองว่าหากบัตรเลือกตั้งสองใบผ่าน แล้วอนาคตอาจจะเกิดการกินรวบในระบอบรัฐสภา พล.อ.นพดลตอบว่า ไม่มองไปถึงขั้นนั้น มองปัจจุบันที่วาระที่ 1-2-3 จบแล้ว ยังไม่ได้มองไปไกล เรื่องนั้นเป็นเรื่องอนาคต ไม่รู้ว่าพรรคการเมืองใดจะชนะการเลือกตั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่เห็นมีอะไร
