กมธ.การเมืองฯแถลงเหตุยิง 2 ด.ช. หน้า สน.ดินแดง พบกลุ่มชายถือปืนไล่ทำร้าย แม่เด็กวอนทำคดีให้กระจ่าง

‘กมธ.พัฒนาการเมืองฯ’ แถลงรายงานเหตุยิงเยาวชนหน้า สน.ดินแดง ม็อบ 16 ส.ค. เผยพบกลุ่มชายฉกรรจ์ถือปืน-ไม้ไล่ทำร้าย คาดกลุ่มเดียวกันก่อเหตุ 2 จุด-อาจเชื่อมโยง ตร. ด้านมารดาเด็กชายเสียงสั่น คดีไม่คืบหน้า วอนทำคดีให้กระจ่าง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กันยายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธาน กมธ. และ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ในฐานะคณะทำงานศึกษากรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองของ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ แถลงรายงานผลการศึกษา กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ซึ่งส่งผลให้เยาวชน 2 คน ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ ด.ช.ธนพล (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ถูกยิงหน้าปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าบริเวณหัวไหล่ด้านหลังทะลุออกด้านหน้า ปัจจุบันปลอดภัยและรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และ ด.ช.วาฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดง กระสุนเข้าบริเวณคอ และฝังอยู่ใกล้แกนสมอง ปัจจุบันยังอยู่ในอาการโคม่า

พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า คณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด 54 ตัว บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และสัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ด.ช.ธนพล และ ด.ช.วาฤทธิ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด กรุงเทพมหานคร บริเวณแยกโรงกรองน้ำ ในเวลาประมาณ 20.34 น. จับภาพกลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ประมาณ 12 คน ในชุดไปรเวท จอดรถที่ปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 และตรงเข้าทำร้ายผู้ชุมนุมที่รวมกลุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว และแม้ผู้ชุมนุมจะหนีไปแล้ว คนกลุ่มนี้ก็ยังคงปักหลักทำร้ายคนที่ผ่านไปมา โดยเฉพาะชายเสื้อสีอ่อน กางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้าง มือหนึ่งถือปืน อีกมือใช้ไม้ไล่ฟาดประชาชนที่ผ่านไปมาด้วยท่าทีคุกคาม

พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า ต่อมา เวลา 20.38 น. ปรากฏภาพชายชุดดำวิ่งพร้อมเล็งปืนยิงไปทางกลุ่มคนริมถนน คาดว่าชายคนนี้คือผู้ที่ยิง ด.ช.ธนพล สอดคล้องกับคําให้การของ ด.ช.ธนพลที่บอกว่าขณะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปรับเพื่อนที่ไปร่วมชุมนุม มีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือไม้และปืนคล้ายลูกโม่ หรือรีวอลโว่ดักอยู่กลางถนน จึงตัดสินใจทิ้งรถแล้ววิ่งหนี แต่ถูกไล่ตามและถูกไม้ฟาดอย่างแรง ซึ่งมารู้ตัวว่าถูกยิงในภายหลัง คาดว่าอาจเป็นช่วงชุลมุนระหว่างถูกรุมตี

พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวต่อว่า จากนั้นเวลา 20.42 น. กล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าซอยประชาสงเคราะห์ 21 ตรงไปยังด้านหลัง สน.ดินแดง และในเวลาไล่เลี่ยกัน ประชาชนบนแฟลตดินแดงได้ถ่ายคลิปวิดีโอที่เห็นชายหลายคนวิ่งอยู่ในซอยหน้า สน.ดินแดง มุ่งหน้าถนนมิตรไมตรี ยิงปืนไปทางถนนมิตรไมตรีอย่างน้อย 15 นัด ซึ่งเสียงปืนจริง

Advertisement

“ต่อมา เวลา 20.44 น. ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพ ด.ช.วาฤทธิ์วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรี มุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ ก่อนถูกยิงล้มลง ซึ่งมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง ระบุทิศทางการยิงว่ายิงตรงมาจากซอยหน้า สน.ดินแดง ซึ่งไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ เนื่องจากปากซอยถูกตำรวจกั้นรั้วกีดขวางกันผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมเผาสิ่งของบริเวณรั้วเป็นกองไฟกองใหญ่

Advertisement

“นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดยังจับภาพชายเสื้อสีอ่อน กางเกงขาสั้น สะพายเป้เฉียงข้าง ยืนอยู่ปากซอยหน้า สน.ดินแดง ทิศทางที่กระสุนถูกยิงไปยัง ด.ช.วาฤทธิ์ ชายคนดังกล่าวมีลักษณะการแต่งกายใกล้เคียงกับชายที่ปรากฏในเหตุการณ์ยิง ด.ช.ธนพลเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ หลังเหตุการณ์คลี่คลายในเวลา 21.00 น. ในไลฟ์รายงานเหตุการณ์ของผู้สื่อข่าวยังปรากฏภาพชายเสื้อขาวและเสื้อดำยืนอยู่หน้า สน.ดินแดง ซึ่งเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชุมนุม แต่ต่อมาระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่” พ.ต.ต.ชวลิตกล่าว

พ.ต.ต.ชวลิตกล่าวต่อว่า คณะทำงานตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุกระทำการอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งพกปืนและไม้ไล่ตีประชาชนนานถึง 8 นาที ซึ่งในจุดที่ ด.ช.ธนพลถูกยิง อาจเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่อยู่หน้า สน.ดินแดง หลังเหตุการณ์คลี่คลาย ราวกับว่าคนกลุ่มนี้มั่นใจว่าจะไม่ถูกจับกุม หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใส่ใจหาความจริงในเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องกับตำรวจ

ด้านนายณัฐชากล่าวว่า จากการทำงานของคณะทำงานสามารถสืบหาหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการใช้ความรุนแรงในบริเวณจุดเกิดเหตุจริง แต่ผ่านมา 1 เดือนหลังจากวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะอ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของตำรวจ โดยรายงานของคณะทำงานฉบับนี้ พร้อมคลิปหลักฐานทั้งหมดจะถูกส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อทวงถามคำตอบจากตำรวจ และจะใช้ในการประกอบการดำเนินคดีที่มารดาของ ด.ช.วาฤทธิ์แจ้งความไว้ที่ สน.ดินแดง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทำร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน นายณัฐชากล่าวว่า ลักษณะการใช้ความรุนแรงของทั้ง 2 เหตุการณ์ และระยะเวลาจากกล้องวงจรปิดกับบริบทพื้นที่ในรัศมีต่างๆ ซึ่งประชาชนได้พาเดินดูนั้น มีระยะเวลาใกล้เคียงกัน เบื้องต้นเราสันนิษฐานกันเช่นนี้ แต่หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่จริงก็สามารถนำหลักฐานมาโต้แย้งได้

ด้านมารดาของ ด.ช.วาฤทธิ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันนี้น้องยังอยู่ที่โรงพยาบาลและตนยังไม่ได้รับความคืบหน้าของคดี ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบเหมือนคดีที่ผ่านๆ มา เพราะคิดว่าทั้ง 2 คดีนี้เป็นเรื่องสะเทือนใจกับครอบครัวของผู้เสียหาย คาดว่าตำรวจคงพยายามหาหลักฐาน จากที่เห็นในคลิปวันนี้ พยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนที่จะทำให้คดีกระจ่างภายในเร็ววัน ขณะนี้มีเสียงแตกมากเหลือเกินว่าเป็นคู่อริ หรือเจ้าหน้าที่ จึงขอให้พยายามทำคดีให้กระจ่าง เพื่อที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้ไม่ตกเป็นจำเลยของสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image