การเดินสาย ‘ประยุทธ์ ประวิตร’ ท่ามกลางความขัดแย้ง แตกแยก
การเคลื่อนไหวในลักษณะ ‘เดินสาย’ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในวันพุธที่ 22 กันยายน กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
เพราะคนหนึ่ง ‘เดินสาย’ ไปยังจังหวัดเพชรบุรี ขณะที่อีกคนหนึ่ง ‘เดินสาย’ ไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความน่าสนใจมิได้อยู่ที่ว่าเป็นการ ‘เดินสาย’ ทั้งในสถานะแห่งความเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ และ ‘รองนายกรัฐมนตรี’ ประการเดียว หากแต่ในนั้นสะท้อนเป้าหมายในทาง ‘การเมือง’ อยู่ด้วย
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับการ ‘เดินสาย’ ไม่ว่าจะเป็นที่สมุทรปราการ ไม่ว่าจะเป็นที่ชัยนาท ไม่ว่าจะเป็นที่ชลบุรีของนายกรัฐมนตรีในห้วงที่ผ่านมา
จุดเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญก็คือ การปรากฏขึ้นของ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
ส่งผลให้การเดินสายเป็นการนัดพบทางการเมืองโดยปริยาย
ความหมายอันละเอียดอ่อนอย่างยิ่งก็คือ เป็นการเดินสายทางการเมืองโดยมีพรรคพลังประชารัฐเป็นจุดประลองกำลัง
หากมองจากรากฐานที่ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนเป็นทหารในระดับ ผบ.ทบ.มาก่อนประสานกับความเป็นพี่น้องใน ‘กลุ่ม 3 ป.’
การ ‘เดินสาย’ ของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ น่าจะเป็นไปในแบบแยกกันเดิน รวมกันตี
นั่นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังจังหวัดเพชรบุรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล้วนเพื่อประโยชน์ของรัฐบาล
ด้านหนึ่ง เป็นการตรวจงานเกี่ยวกับการบริหารน้ำ ด้านหนึ่ง เพื่อกระชับเอกภาพทางการเมือง เพื่อให้รัฐบาลแข็งแกร่ง
สร้างความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมก่อนยุบสภา เลือกตั้งใหม่
หาก ‘การเดินสาย’ ในวันพุธที่ 22 กันยายนมาจากเอกภาพอันเป็นปกติของรัฐบาลก็สามารถคิดเช่นนั้นได้ เพียงแต่สถานการณ์จากกรณีปลดรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายนยังมิได้จบสิ้น
ความสงสัยจึงอยู่ที่การสะสมกำลังและการสร้างดาวคนละดวง
เอกภาพทางการเมืองระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงยังคงเป็น ‘คำถาม’
ท่ามกลางข่าวลือเรื่องการยุบสภาและแนวโน้มการเลือกตั้ง
