10 ปี ผ่านไป คดี ‘ร้อยโทกับพวก’ รุมซ้อม ‘พลทหารวิเชียร’ ยังไม่ถูกฟ้อง-ล่าสุดเลื่อนไม่มีกำหนด

ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 เลื่อนนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องอย่างไม่มีกำหนดกรณีพลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกซ้อมเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 21 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า  อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้มีหนังสือลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ถึงนางสาวนริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ผู้รับมอบอำนาจผู้เสียหาย (นางประเทือง เผือกสม ผู้เสียหาย) แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดำที่ 41 ก./2563 ของศาลมณฑลทหารบกที่ 46 (ใช้กฎอัยการศึก ประกาศใช้ 19 ก.ย. 2549) โดยหนังสือแจ้งดังกล่าวมีใจความว่า

อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้ยื่นฟ้องคดี ร้อยโท ภูริ เพิกโสภณ กับพวกรวม 9 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นทหารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา ต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 46 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 โดยศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้กำหนดนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้อง ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง และข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง รวมถึงการที่ไม่สามารถเบิกตัวจำเลยที่ 4 จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กรุงเทพมหานคร ได้ ศาลมณฑลทหารบกที่ 46 จึงเลื่อนนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องไปในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 เวลา 8.30 น. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเลื่อนนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องไปแล้วครั้งหนึ่งไปเป็นวันที่ 21 พฤษภาคม 2564

ต่อมาอัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ได้แจ้งให้นางสาวนริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ ทราบอีกว่า ศาลได้มีคำสั่งเลื่อนนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องคดีดังกล่าวออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จะดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมและไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

Advertisement

คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกเจ้าหน้าที่ทหารรุมซ้อมทรมานทำร้ายร่างกายในหน่วยฝึกทหารใหม่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในปี 2554 โดยพลทหารวิเชียร เผือกสม ได้สมัครเข้ารับการราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2554 สังกัด ร.151 พัน.3 และเข้าฝึกยังหน่วยฝึกทหารใหม่ในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส โดยข้อเท็จจริงพบว่า พลทหารวิเชียร เผือกสม ถูกร้อยโทภูริ เพิกโสภณ กับพวกเจ้าหน้าที่ทหารรวม 9 คน รุมทำร้ายซ้อมทรมาน เมื่อวันที่ 1มิถุนายน 2554 อ้างว่าพลทหารวิเชียรหลบหนีการฝึก เป็นเหตุให้พลทหารวิเชียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตลงในวันที่ 5 มิถุนายน 2554 จากอาการไตวายเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง

เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554 แต่การดำเนินคดีอาญาเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งกระทำความผิดอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงนั้น มีความความล่าช้ามาก โดยคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้วสรุปสำนวนส่งไปยังอัยการศาลทหาร รวมระยะเวลา 9 ปี จึงได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลทหารเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 จนถึงปัจจุบันยังอยู่ระหว่างรอศาลทหารว่าจะกำหนดนัดวันฟังคำสั่งประทับรับฟ้องอีกเมื่อใด

ที่ผ่านมา นางสาวนริศราวัลย์ แก้วนพรัตน์ หลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ได้เดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมในทางคดีตลอด 10 ปีที่ผ่านมา และได้มีการยื่นฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ในส่วนของคดีแพ่ง โจทก์ฟ้องกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย และศาลได้พิพากษาให้คดีความเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 โดยกองทัพบกจ่ายเงิน 7 ล้านกว่าบาทแก่โจทก์ ในส่วนของคดีอาญาอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยได้ยื่นฟ้องทหารผู้กระทำความผิดต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 46 ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนติดตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลทหารต่อไปว่า จะสามารถมอบความเป็นธรรมให้กับพลทหารวิเชียร เผือกสม (ผู้ตาย) รวมทั้งมารดาและครอบครัวเผือกสมที่ถูกพรากสิทธิในชีวิตและเนื้อตัวร่างกายของลูกชายผู้เป็นที่รักของมารดาและญาติ ๆ ไปได้หรือไม่ และคดีจะยืดเยื้อออกไปอีกนานเพียงใด เนื่องจากคดีได้ติดอยู่ในกระบวนการยุติธรรมมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว และได้มีการเลื่อนนัดฟังคำสั่งประทับรับฟ้องไปอีกอย่างไม่มีกำหนด เป็นเหตุให้มูลนิธิมีความกังวลว่ากระบวนการในชั้นศาลทหารจะยาวนานไปอีกเพียงใด หลังจากล่าช้าในชั้น ป.ป.ท. และอัยการศาลทหารมาเกือบทศวรรษแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image