‘ปลอด’ งง 2 ป.แย่งกันตรวจน้ำทำไม สถิติชัด ภาพรวมปีนี้น้ำยังน้อย ไม่ท่วม หรือประลองกำลังกันจริง?

“ปลอด” งง 2 ป.แย่งกันตรวจน้ำทำไม สถิติชัด ภาพรวมปีนี้น้ำยังน้อย ไม่ท่วม หรือประลองกำลังกันจริง?

 

เมื่อวันที่ 2 กันยายน นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความแสดงความเห็นกรณี การลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ของ 2 ป. พลังประชารัฐ ระบุว่า

ตรวจน้ำท่วม แต่กล้วยหมดสวน

Advertisement

ผู้รู้เรื่องน้ำถกกันว่า ท่านนายกประยุทธ์และรองนายกประวิตร (แย่ง) กันไปตรวจสถานการณ์น้ำทำไม เพราะปีนี้กูรูผู้รู้จริงจาก สนทช. กรมชลประทานและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำต่างพูดเหมือนๆ กันว่าปีนี้น้ำน้อย

เพื่อความกระจ่างด้วยความไม่อยากพูดลอยๆ ในฐานะที่เคยเป็นรองนายกควบคุมหน่วยงานน้ำทั้งหมดของประเทศมาก่อน จึงขอสรุปสถานการณ์น้ำในปีนี้พอสังเขป ดังนี้

ใน 8 เดือนที่ผ่านมาฝนทางเหนือน้อยกว่าค่าปกติ 5% ส่วนในลุ่มเจ้าพระยานั้น น้อยไป 13% ปัจจุบันเราน้ำเก็บกักไว้ตามเขื่อนต่างๆ 35 แห่ง เพียง 56% ของความจุ ในขณะที่ในปี 2554 คือปีน้ำท่วมใหญ่มีมากถึง 90% และด้วยปีนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะลานีญา พายุอาจจะเกิดได้มากกว่าปกติในช่วงปลายฤดูฝนโดยเฉพาะภาคใต้ จึงอาจจะมีฝนชุกโดยคาดการณ์ว่าจากนี้ไปอาจมีพายุอีก 2 ลูกก็ได้

สรุปคือ น้ำน้อยไม่ท่วม ชาวบ้านไม่เดือดร้อนมาก ชาวบางบาลให้สัมภาษณ์บ่ายนี้เองว่า ปีนี้น้ำน้อย ผมเฝ้าดูน้ำที่หน้าบ้านเมืองนนท์ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังต่ำกว่าตลิ่งอยู่เป็นเมตร จึงมีคำถามว่า แล้วท่านทั้งสองไปดูน้ำท่วมทำไม แถมยังไปวันและเวลาเดียวกันด้วย ต่างกันตรงที่ท่านประยุทธ์ไปเพชรบุรี (ภาคกลาง) ส่วนท่านประวิตรไปอยุธยา (ภาคกลาง) ส่วนลูกน้องข้าราชการประจำของทุกหน่วยที่เกี่ยวกับน้ำก็ต้องแบ่งเป็นสองกลุ่ม แยกกันไปชี้แจง ผมว่าเป็นการบริหารที่แปลกมาก นี่หากผมยังเป็นข้าราชการอยู่เผลอๆ จะประท้วงแกล้งป่วยไม่ไปสักแห่งเอาดื้อๆ เลย

นักการเมืองฟากฝ่ายค้านและสื่อเขาลือกันแซดว่า เป็นการประลองกำลังถึงขนาดกล้วยหมดสวนเลยครับ อยากปรารภให้ฟังว่า พรรคการเมืองที่ไม่ได้เกิดจากศรัทธาของประชาชนที่เป็นรากหญ้าอย่างแท้จริง มันก็มีลักษณะคล้ายๆ จะเป็นแบบนี้แหละครับ โดยธรรมชาติของพรรคการเมืองไทยส่วนใหญ่แล้ว การมีก๊วนหรือแก๊งเป็นของธรรมดา ก๊วนประเภทแรกที่ค่อนข้างจะมั่นคงถาวร คือก๊วนพื้นที่ระดับจังหวัด ซึ่งมักจะพัวพันเป็นญาติผัวญาติเมีย และเชื่อมไปยังการบ้านเมืองท้องถิ่นด้วย ก๊วนประเภทที่สองมักจะเกิดภายหลังพรรคเกิดขึ้นมาแล้ว หัวหน้ากลุ่มจึงเป็นดาราประเภทดาวฤกษ์มีอาวุโส กลุ่มประเภทนี้ยืดได้หดได้ตามสถานการณ์ ส่วนกลุ่มที่สามเป็นประเภทอโคจรหรือบางทีเรียกว่านกแล กลุ่มนี้บางทีก็รวมกันบางทีก็แยกกันสุดแล้วแต่ลาภยศสรรเสิญ

ท่านนายกประยุทธ์ตกลงใจแน่นอนแล้วหรือครับว่า บั้นปลายของชีวิตจะเอาการเมืองเป็นสรณะ หากท่านตัดสินใจแบบนี้จริงๆ ตั้งพรรคใหม่เลยครับ แล้วประกาศนโยบายฟื้นฟูประเทศให้ชัดเจน อย่าไปดึงไปแย่งคนจากที่อื่นมาเลย โดยเฉพาะจากกลุ่มเพื่อนเก่าของท่าน ส่วนท่านประวิตรก็มุ่งหน้าเป็นนายกเสียเองเลยให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ผมดูท่านหลังๆโหว่งเฮ้งเยี่ยมมาก

เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ยุให้ตีกัน แต่อยากเห็นการเมืองโปร่งใส เปิดเผย และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริง รวมถึงอยากเห็นทหารประชาธิปไตยจริงๆ พร้อมกันนี้ก็ถือโอกาสปลอบใจประชาชนว่าอย่ากลัวน้ำท่วม (เพราะไม่ท่วมเหมือนปี 54 แน่) และขออวยพรให้ปลอดจากโควิดทุกคนครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image