‘บิ๊กตู่’ ลั่น รบ.ไทยมุ่งมั่นหนุนเป้าหมายการประชุมสุดยอดว่าด้วยการยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการฟื้นตัว

‘บิ๊กตู่’ ประกาศความมุ่งมั่นในนามรัฐบาลไทยเพื่อดำเนินการสนับสนุนเป้าหมายการประชุมสุดยอดว่าด้วยการยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น (Global COVID-19 Summit : Ending the Pandemic and Building Back Better)

เมื่อเวลา 22.00 – 01.00 น.วันที่ 22 กันยายน 2564 (เวลา 11.00 – 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีส่วนร่วมในการประชุมสุดยอดว่าด้วยการยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น (Global COVID-19 Summit : Ending the Pandemic and Building Back Better) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ในรูปแบบการประชุมทางไกล โดยมีนายโจเซฟ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นประธานการประชุม ซึ่งการมีส่วนร่วมของนายกรัฐมนตรีเป็นการแสดงสปิริต ความมุ่งมั่น และการสนับสนุนความพยายามร่วมกันในระดับโลกเพื่อประกาศคำมั่น และสะท้อนความร่วมมือเพื่อยุติโควิด – 19 และเพื่อการฟื้นตัว

นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ไทยเชื่อมั่นในความร่วมมือพหุภาคีมาตลอดทั้งเพื่อยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามทางสุขภาพในอนาคต ทั้งนี้ รัฐบาลไทย ร่วมดำเนินการตามเป้าหมาย ดังนี้ 1.ไทยกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ และจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนอย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในปีนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตวัคซีนภายในประเทศ และพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนในภูมิภาคและส่งเสริมด้านสุขภาพโลก 2.ไทยสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิตเวชภัณฑ์และวัสดุทางการแพทย์ เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้มีความปลอดภัย ที่ผ่านมา ไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ แก่กว่า 10 ประเทศ ตลอดจนร่วมมือพัฒนาขีดความสามารถด้านสาธารณสุขกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง และจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ไทยขอขอบคุณสหรัฐ และมิตรประเทศที่ได้ให้ความช่วยเหลือตลอดมา

3.ไทยเห็นด้วยกับการสร้างความเข้มแข็งในการเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อโรคระบาดในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับสากล รวมทั้งสนับสนุน WHO ที่กำลังจัดทำตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยโรคระบาด ซึ่งประเทศไทยอยู่ระหว่างแก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อให้สอดคล้องกับกฎอนามัยระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดในอนาคต

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม Global COVID-19 Summit : Ending the Pandemic and Building Back Better นี้แล้ว นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 76 (76th Session of the United Nations General Assembly: UNGA76) และการประชุมที่เกี่ยวข้องแบบทางไกล โดยมีกำหนดการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมที่สำคัญอีก 3 รายการ ดังนี้
1.วันที่ 23 กันยายน 2564 การประชุมสุดยอดว่าด้วยระบบอาหาร (Food Systems Summit) ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” สร้างความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนโมเดล BCG เป็นทศวรรษแห่งการทำงาน หรือ Decade of Action พลิกโฉมระบบอาหารให้มีความยั่งยืนและสมดุล
2.วันที่ 24 กันยายน 2564 การประชุมระดับสูงด้านพลังงาน (High-level Dialogue on Energy) ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของไทย โดยมุ่งจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติ ขับเคลื่อนภาคพลังงานของไทยสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ และการลดก๊าซเรือนกระจก และ
3.วันที่ 25 กันยายน 2564 ในการอภิปรายทั่วไป (General debate) ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับโลกหลังยุคโควิด-19

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image