09.00 INDEX มุมต่าง จากภาพ ความขัดแย้ง เป็น “เรื่องจริง” หรือเพียง “ละคร”
หากภาพและการเคลื่อนไหวระหว่างรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และโดยเฉพาะระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นการเล่นละคร
ก็ต้องนับว่า “บทบาท” ไม่ว่าจะมองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กินขาด
กินขาดตั้งแต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาแถลงระบุ ว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อโค่นล้มตนเองในวันที่ 1 กันยายนในห้วงแห่ง ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
ประสานเข้ากับการออกมาแถลงตอบโต้โดยอ้อมๆจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประสานกับการออกมาเล่นบท “กาวใจ” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
และเมื่อสถานการณ์การลงมติในวันที่ 4 กันยายนผ่านไปเพียง 4 วันก็ปรากฏพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯประกาศออกมา
ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากตำแหน่ง “รัฐมนตรี”
โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนาม รับสนองพระบรมราชโองการ
เหตุการณ์จากวันที่ 8 กันยายนได้รับการตอกย้ำผ่านแถลงลาออกจากตำแหน่งของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ระบุรอยร้าวได้เกิดขึ้นแน่ ชัดระหว่างตนกับนายกรัฐมนตรี
แต่ได้รับการค้ำยันให้อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชา รัฐต่อไปโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
จากนั้น ปรากฏการณ์อันได้รับการตีความว่าเป็นการประลองกำลังก็เกิดขึ้นระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เยือนเพชรบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เยือนพระนครศรีอยุธยา
หากแต่ละภาพ แต่ละถ้อยแถลงไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นการเล่นละคร
ก็ต้องยอมรับว่า 2 นายพลเอกนี้ต้องได้รับ “ตุ๊กตาทอง” แน่นอน
สิ่งที่สังคมไทยเฝ้ามองจึงไม่เพียงแต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปตรวจราชการจะมี ส.ส.จากพรรคพลัง ประชารัฐกี่คนไปต้อนรับ
หากแต่ยังอยู่ที่ว่ากระบวนการ “ปรับครม.” จะออกมาอย่างไร
และจะมีการเปลี่ยนแปลง “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐ และในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไรต่อไป
ละครทั้งหมดนี้ “เล่น” กันระหว่างพี่น้อง “กลุ่ม 3 ป.” เท่านั้นหรือ
