รบ.เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด หวังผลิตเชิงพาณิชย์-ลดซื้อไฟฟ้าจาก ตปท.

รัฐบาลเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด หวังผลิตกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์-ลดการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงกรณีรัฐบาลเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด ว่า ความคืบหน้าการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด ส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นสังคมที่ผลิตคาร์บอนต่ำเน้นการใช้พลังงานสะอาด โดยที่ตั้งเป้าไว้ว่าสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าใหม่จะต้องเป็นสัดส่วนของพลังงานสะอาดไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 โครงการล่าสุดที่กำลังจะเปิดจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์คือโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ลอยน้ำไฮบริด ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เมื่อเดือนตุลาคม 2562 คณะรัฐมนตรีได้สนับสนุนงบกลาง 643 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบมีทุ่นลอยน้ำดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี วงเงินลงทุนรวม 2,265 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 87.53 ล้านหน่วยต่อปี รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานที่มีจำนวนความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

น.ส.รัชดากล่าวว่า และมากไปกว่านั้นทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเองยังเดินหน้าโครงการในพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนอื่นๆ ทั่วประเทศโดยมีเป้าหมายกำลังผลิตรวมทั้งหมด 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 2580 ด้วย ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าเราจะต้องสามารถลดการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ เร่งส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยจะใช้พื้นที่อ่างเก็บน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด อธิบายง่ายๆ อย่างโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำแบบไฮบริดนี้ เขื่อนสิรินธรในปัจจุบันนี้มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเขื่อนสิรินธรอยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ในอ่างเก็บน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็จะมีการติดตั้งทุ่นลอยน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่เขื่อนก็เท่ากับว่าในเขื่อนสิรินธรจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้จากพลังงานโซลาร์เซลล์และพลังงานแสงอาทิตย์ นี่เป็นความคืบหน้าส่วนหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image