‘ณัฐชา’ ซัดไม่ใช่เวลาช่วงชิง ส.ส. แต่ต้องช่วยเหลือ ปชช. เชื่อ ‘ธรรมนัส’ กระโดดลงน้ำส่งสัญญาณบางอย่าง ชี้พรรคฝ่ายรัฐบาล ปัญหามาก แนะ ‘บิ๊กตู่’ แก้เงื่อนตัดเชือกยุบสภา ยันก้าวไกลส่ง ‘พิธา’ นั่งแคนดิเดตนายกฯ ชูนโยบายเกษตรก้าวหน้า มั่นใจ ปชช.สนับสนุน
เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 5 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงพื้นที่ของหลายพรรคการเมืองเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง รวมถึงความพร้อมของพรรค ก.ก. ว่าตนคิดว่ามุมมองต่างกัน แต่ละพรรคการเมืองวันนี้ทยอยลงพื้นที่ไปเยี่ยมประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย และปัญหาวิกฤตโรคระบาดต่างๆ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตนไม่อยากไปก้าวล่วง แต่การลงพื้นที่ของสมาชิก หรือเลขาธิการพรรคในนามแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาจไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมากนัก แต่เป็นเพียงแค่การช่วงชิง ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐกันเองเท่านั้น ตอนนี้มีการแข่งขันกันอย่างเห็นชัดได้ชัด ทั้งฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และฝ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ในการลงพื้นที่แข่งกันว่าใครที่จะมีจำนวน ส.ส.มากกว่ากัน แต่วันนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาช่วงชิงจำนวน ส.ส.แต่ต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนมากกว่า
นายณัฐชากล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลงทุนกระโดดลงน้ำระดับอกไปเยี่ยมประชาชน ความจริงตนคิดว่าท่านนั่งเรือไปก็ได้ แต่การแสดงสัญลักษณ์เช่นนี้ก็บ่งบอกให้เห็นถึงสัญญาณอะไรบางอย่าง เพราะคนอย่าง ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เดินเกมหรือก้าวย่างไปแต่ละวันโดยไม่มีทิศทาง ตนคิดว่าทิศทางนี้เป็นทิศทางสำคัญว่าภายในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ณ เวลานี้มีความวุ่นวายพอสมควร ซึ่งก่อนที่จะไปกระโดดน้ำในวันนั้น ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้เดินทางไปยัง จ.สมุทรสาคร เพื่อเป็นตัวแทนพรรคที่จะไปเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำ จ.สมุทรสาคร ในเขต 1 และ 2 นี่เป็นสัญญาณบางอย่าง เพราะกฎหมายกติกาการเลือกตั้งบอกว่าการที่พรรคการเมืองจะส่งตัวแทนพรรคลงในนามผู้สมัคร ส.ส.นั้นจะต้องมีตัวแทนพรรคการเมืองในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งหลายพรรคกำลังเร่งปฏิบัติเรื่องนี้อยู่ ซึ่งเป็นสัญญาณเดียวกัน
เมื่อถามว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร.มีข่าวว่ายังเป็น พล.อ.ประยุทธ์อยู่ มองอย่างไร นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้ตนไม่แน่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนประธานยุทธศาสตร์ ก็ต้องไปถามว่าประธานคนใหม่ยังเล็งเห็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดิมหรือไม่ ซึ่งวันนี้มีปัญหาจริงๆ ในเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าใครจะสละเรือ หรือใครจะยังเกาะอยู่ เหมือนหมากเกมหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐจะต้องเดิมพันว่า หากวันนี้คุณสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่บริหารราชการล้มเหลว ทั้งการบริหารราชการในช่วงอุทกภัย ซึ่งมีเสียงต่อว่าจากประชาชนจำนวนมาก พรรค พปชร.จะสนับสนุนคนแบบนี้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปหรือไม่ หรือพรรคการเมืองอื่นจากอดีตข้าราชการระดับสูงที่ตั้งพรรคมารองรับ จะนำ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ เสียเอง พรรค พปชร.จะส่งใคร ก็ต้องตั้งคำถามไปยังหัวหน้าพรรค เลขาฯ พรรค หรือประธานยุทธ์ศาสตร์คนใหม่ก็ได้
เมื่อถามถึงบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ห้ามนายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้มีหลายทิศทางที่มองกัน ไม่ว่าจะอดีต ส.ส.ร.บางคนก็บอกว่าให้นับย้อนหลัง บางคนให้นับตั้งแต่เขียนรัฐธรรมนูญ บางคนให้นับหลังจากการเลือกตั้ง สิ่งเดียวที่ต้องออกมายืนยันคือเรื่องกฎหมายที่จะต้องไปตีความกัน
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.ส่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ใช่หรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ในวันที่เราเลือกนายพิธาเป็นหัวหน้าพรรค เรามีมติพรรคที่จะมาอยู่พรรค ก.ก.หลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เรามีมติพรรคที่จะเลือกนายพิธาเป็นหัวหน้าพรรค นั่นหมายความว่าทุกคนยืนยันและการันตีว่านายพิธาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรค ก.ก.แน่นอน และมีความมั่นใจในเสียงสนับสนุนที่นายพิธาจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์เรื่องการทำงานราชการที่ผ่านมา การดำเนินการธุรกิจส่วนตัว และผลงานที่โดดเด่นเมื่อครั้งพรรค อนค. นั่นคือนโยบายเกษตรก้าวหน้า ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าอาชีพหลักของคนไทยปัจจุบันไม่ว่าจะภูมิภาคใดก็ยังมีอาชีพเกษตรกรรม วันนี้นโยบายเกษตรก้าวหน้านำทีมโดยนายพิธาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องนี้อยู่แล้ว ตนคิดว่าประชาชนได้เห็นฝีมือทั้งในสภาและนอกสภาไปแล้ว ได้รับเสียงสนับสนุนมากไม่ว่าจะจากโพลหรือการลงพื้นที่ ตนเชื่อว่าประชาชนให้การสนับสนุนนายพิธาแน่นอน
เมื่อถามว่ามองว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนมาใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หรือยังคงใช้ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวอยู่ นายณัฐชากล่าวว่า เรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แม้วันนี้จะผ่านสภาไปแล้ว แต่ยังคงรอเรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูก แต่สัญญาณการยุบสภามีอยู่ทุกวินาที เนื่องจากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลก็มีปัญหาทุกวัน ไม่ว่าจะการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มอบ 4 กรมให้ พล.อ.ประวิตร ข้ามหัวข้ามห้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. ฉะนั้นการตัดสินใจหลายอย่างของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นปมที่มัดแน่นขึ้นๆ ที่ไม่สามารถแก้เงื่อนนี้ได้ หนทางเดียวที่จะแก้เงื่อนนี้ได้คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดเชือกนี้ทิ้ง นั่นคือการยุบสภา
