‘เพนกวิน’ หวัง ไม่ต้องมีจารุพงษ์ ทองสินธุ์คนต่อไป ส่งสุนทรพจน์จากเรือนจำ แม่รับรางวัลแทน

‘เพนกวิน’ หวัง ไม่ต้องมีจารุพงษ์ ทองสินธุ์คนต่อไป ส่งสุนทรพจน์จากเรือนจำ แม่รับรางวัลแทน

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม บริเวณหน้าลาประติมากรรม ‘ธรรมศาสตร์ กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519’ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงานรำลึก 45 ปี 6 ตุลา โดยเมื่อเวลา 09.35 น. เป็นพิธีการมอบรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์เพื่อประชาธิปไตย

นายชยพล ดโนทัย ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการตัดสินรางวัลฯ มีมติมอบรางวัลแด่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เนื่องจากเป็นผู้เสียสละตนเองเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มเพื่อนจารุพงษ์ นำโดยนายธานี จิริยะสิน ซึ่งสวมเสื้อยืดสกรีนภาพใบหน้านายจารุพงษ์ และข้อความ ‘เราไม่ลืมจารุพงษ์’ มอบรางวัลดังกล่าวโดยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ หรือเพนกวิน มารับแทนบุตรชายซึ่งยังถูกจองจำในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยมีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมโล่

Advertisement

นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า ตนขอรำลึกถึงวีรชนทุกท่านที่เสียสละในอดีต ขอบคุณผู้รักประชาธิปไตยที่มาแสดงจุดยืน วันนี้เป็นวันน่ายินดีที่คนมายืนตรงนี้ควรเป็นลูกชายของตน แต่เขาอยู่ในเรือนจำมานานเกือบ 60 วันแล้ว พอบอกว่าจะได้รางวัล จึงอยากสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้อง

จากนั้น นางสุรีย์รัตน์ อ่านสุนทรพจน์จากนายพริษฐ์ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า วันนี้ได้รับเกียรติมากที่ได้รับรางวัลจารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตยประจำปี 2564 เพราะนายจารุพงษ์ ไม่เพียงเป็นรุ่นพี่ แต่ยังเป็นผู้เสียสละเพื่อประชาธิปไตยจนถึงที่สุด คือเสียสละชีวิต เกียรติภูมิของตน หากมี ก็ไม่อาจเทียบเท่านายจารุพงษ์ และวีรชนเดือนตุลา การรับรางวัลเป็นเกียรติใหญ่หลวง และอีกทางหนึ่งยังเป็นความน่าหดหู่ เพราะการที่ยังต้องรับรางวัลแสดงว่าแม้จารุพงษ์จากไป 45 ปีแล้ว ยังคงมีคนต้องเจ็บปวด เสียสละเพื่อประชาธิปไตยไม่ต่างจากยุคนั้น ตนยังอยู่ในเรือนจำ เพราะเรียกร้องประชาธิปไตย การกักขังคนที่มีความคิด ความเชื่อของตัวเองสะท้อนว่าประชาธิปไตยของเราติดเชื้อโรคแทรกซ้อนจนอ่อนแอ เปราะบางถึงขนาดไม่อาจทนฟังคนเห็นต่างได้ รับความจริงไม่ได้ ในอดีตถึงปัจจุบัน มีผู้ประสบชะตากรรมมากมาย ตั้งแต่ กุหลาบ สายประดิษฐ์ สมยศ วีรชน 6 ตุลา สมยศ พฤกษาเกษมสุข จนถึงอีกหลายคนรวมถึงตน จึงเป็นเหตุให้คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นสู้ ทั้งที่ประชาธิปไตยไทยถือกำเนิดตั้งแต่ พ.ศ.2475 แต่กลับเป็นประชาธิปไตยที่ถูกล่ามโซ่

Advertisement

ในตอนท้ายของสุนทรพจน์ ระบุว่า หากฝันถึงประชาธิปไตย ต้องเริ่มต้นด้วยการปล่อยปล่อยผู้ถูกจองจำจากความเห็นต่างทางความคิด เดินหน้าสู้เพื่อความยุติธรรม และหวังว่าการรับรางวัลนี้จะส่งผลให้ประเทศไทยไม่มีจารุพงษ์คนอื่นขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ สุนทรพจน์ดังกล่าว เขียนขึ้นในวันที่ 59 ของการถูกจองจำเป็นครั้งที่ 2 ของนายพริษฐ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image