‘พปชร.’ เคารพการตัดสินใจ ‘บิ๊กตู่’ ยก 4 กรม คืน ปชป.
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยกเลิกคำสั่งที่ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับดูแล 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยรับผิดชอบดูแลว่า เราต้องเคารพการตัดสินใจของนายกฯ การรับผิดชอบงานอย่าไปมองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ เมื่อเป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องรับผิดชอบในการขับเคลื่อนงานร่วมกัน ถ้าประชาชนอยู่ดีกินดี ลดความลำบากยากจนก็เป็นผลงานร่วมกันอยู่แล้ว
“เป็นธรรมชาติของพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจจะแสดงความเห็นต่างกันบ้าง แต่อย่าไปคิดมากว่ายก 4 กรมแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะคุมเบ็ดเสร็จ หรือได้คะแนนนิยม เพราะภารกิจของรัฐบาลคือช่วยให้ประชาชนพ้นทุกข์ นอกจากบริหารงานตามอำนาจรัฐ ต้องช่วยชาวบ้านด้วย ดังนั้น อย่าไปทิฐิว่าใครจะคุมอันนั้นอันนี้” นายรงค์กล่าว
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. กล่าวว่า เมื่อนายกฯตัดสินใจแล้วต้องยอมรับ เพราะอำนาจบริหารงาน หรือการจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือเป็นดุลพินิจและเป็นอำนาจโดยชอบของนายกฯ เราไม่มีปัญหาอะไร ถึงแม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะไม่มีรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสุดท้ายก็ต้องผ่านนายกฯและ ครม.พิจารณาก่อนจะขับเคลื่อนงาน ส่วนที่มีการแสดงความเห็นตอบโต้กันก่อนหน้านั้นก็เป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นในเรื่องต่างๆ ได้ โดยต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมือง และอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละคนด้วย
ด้าน นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของนายกฯ และไม่ได้มองว่าเป็นการยกอำนาจเบ็ดเสร็จให้พรรคประชาธิปัตย์ หรือกรณีดังกล่าวจะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นอีก เพราะไม่ว่า 4 กรมจะไปอยู่ในกำกับของใครก็ต้องผ่านนายกฯ แต่ยอมรับว่าการไม่มีรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ไปดูแลก็มีผลในทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะจะทำให้บทบาทหน้าที่ของพรรคในการไปดูแล ปกป้องผลประโยชน์ และแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรทำได้ไม่เต็มที่ ขณะที่เขาสามารถเรียกความนิยมได้ หากดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นที่ยอมรับของประชาชน
