‘ลูกนัท’ โชว์สกิลกีตาร์ ร้องเพลงไล่ประยุทธ์ แกนนำปราศรัย ‘รุ่นพี่ 6 ตุลาต้องไม่ตายฟรี’
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานรำลึก 45 ปี 6 ตุลาคม 2519 ในรอบเย็นซึ่งเริ่มต้นเมื่อเวลา 16.00 น. โดยมีการเล่นดนตรีอย่างคึกคัก ก่อนตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ’ เปิดการแสดงบริเวณลานระหว่างหอประชุมใหญ่และสนามฟุตบอล โดยมีผู้ทยอยเข้าร่วมอย่างหน้าแน่นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ผู้ร่วมกิจกรรมล้อมวงรอฟังเพลงโดยวงสามัญชน ซึ่งเริ่มต้นด้วยเพลง ‘อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้’
ขณะที่พื้นที่บริเวณบันไดหอประชุมใหญ่ 2 ฝั่ง รวมถึงลานหน้าประตูเต็มไปด้วยประชาชนที่เข้าร่วมรำลึก สำหรับลานประติมากรรม ‘ธรรมศาสตร์ กับเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519’ มีผู้นำพวงมาลารำลึกจนล้น ด้านโครงการอินเทอร์เนตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ตั้งบูธให้ความรู้ด้านกฎหมายมาตรา 112 และจำหน่ายหนังสือ
ผู้สูงอายุหลายราย นำเก้าอี้มาในพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรมรำลึกได้อย่างสะดวก
เวลาประมาณ 16.45 น. เป็นการผลัดกันปราศรัยในประเด็นต่างๆ
เวลา 16.45 น. นายชนินทร์ วงษ์ศรี หรือบอล แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมปราศรัยเกี่ยวกับความใฝ่ฝันของคนในประเทศที่ต้องการเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตย อยากเห็นประเทศเป็นประเทศแห่งความหวัง และยืนยันว่าตราบใดที่ยังมีการกดขี่อยู่การต่อสู้ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ
“วันนี้เราอยู่ในงาน 6 ตุลา ประวัติศาสตร์ที่รัฐอยากให้เราลืม ประวัติศาสตร์การต่อสู้ของสามัญชนที่รัฐพยายามจะลบ ทุกวันนี้เราเห็นอะไรบ้าง การสร้างวาทกรรมจากรัฐ การยุยงปลุกปั่น การสร้างความเกลียดชังระหว่างประชาชนมันยังมีอยู่ มันยังมีอยู่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝันร่วมกันเราอยากจะเห็นสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เราอยากเห็นเศรษฐกิจที่ดี เราอยากเห็นประเทศนี้เป็นประเทศแห่งความหวังไม่ใช่ประเทศแห่งความสิ้นหวัง ไม่อยากเห็นเผด็จการปกครองประเทศนี้อีกแล้ว วันนี้เราต่างมารำลึก วันนั้นเขายิงเรา วันนั้นเขาฆ่าเรา วันนั้นเขาปราบปรามเรา ทุกวันนี้เขาก็ยังทำอยู่ แต่เราจะบอกว่าไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนเราก็จะสู้ต่อ ถ้าประเทศไทยยังไม่มีประชาธิปไตย ตราบใดที่ประเทศนี้ยังมีการกดขี่อยู่การต่อสู้ก็ยังคงมีอยู่ และจะมีอยู่ขึ้นเรื่อยๆ” นายชนินทร์กล่าว
จากนั้น นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย แกนนำราษฎร ปราศรัยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ม.ธรรมศาสตร์สร้างขึ้นมาบนเจตนารมณ์ประชาชน ถ้าผู้บริหารมหาวิทยาลัยคิดไม่ได้ก็ลาออกไป เราพยายามทุกปีเพื่อรำลึกว่าพี่ของเราในยุค 6 ตุลาต้องไม่ตายเปล่า เราจัดรำลึก เรียกร้องให้นำคนผิดมาลงโทษ ปีนี้ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะถูกกระทำแค่ไหน
“1 ปีที่ผ่านมา เพื่อนเราต้องถูกจับ มีการใช้ความรุนแรง แต่เรายืนยันว่า ไม่ว่าจะปิดกั้นอย่างไร เราก็จัดได้ และอยู่ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ เป็นการประกาศว่าจะเอาคนผิดมาลงโทษ ต้องชำระประวัติศาสตร์” นายธัชพงศ์กล่าว
จากนั้น เวลาราว 17.00 น. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท เล่นกีตาร์ และขับร้องบทเพลงมีเนื้อหาต่อต้านเผด็จการ โดยในตอนท้าย เนื้อเพลงร้องว่า ‘ประยุทธ์ออกไป’ ซ้ำๆ หลายครั้ง ผู้ร่วมกิจกรรมต่างตะโกนประโยคดังกล่าวไปพร้อมกัน
“สัญญาได้ไหมทุกคน สัญญาต่อหน้าความจริง ประชาชนและราษฎร ทวงคืนอำนาจที่เป็นของเราอยู่แต่เดิม เราจะไม่ยอมให้ใครกดขี่ จองจำเราอีกต่อไป และใครที่คิดทรยศประชาชน ต้องรับผิดชอบ” นายธนัตถ์กล่าว
